Page 58 - วารสาร DSI ฉบับ EBook เล่ม1
P. 58
ี
ึ
ั
ื
พฤตกรรมการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ถือเป็นอาการผิดปกติทางจิตประเภทหน่ง ท่เม่อเป็นแล้วอาจถึงข้นไม่ม ี
ิ
ื
ี
การรักษาให้หายขาดได้ ซ่งอาการในลักษณะน้มีช่อเรียกว่า “โรคใคร่เด็ก” โดยวิทยานิพนธ์เร่อง ผู้ป่วยโรคใคร่เด็ก
ึ
ื
กับขอบเขตความรับผิดทางอาญา : ศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายต่างประเทศ จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ี
ี
ั
ึ
ึ
ั
่
ุ
่
(พ.ศ. 2560) ของนางสาววรญญา เสาวนิต กล่าวถึงโรคใคร่เด็กว่า เป็นโรคทางจิตประเภทหน่งซงบคคลทมลกษณะ
ั
ี
อาการดังกล่าวมักจะเกิดความต้องการทางเพศกับเด็กท่อายุเฉล่ยประมาณ 13 ปี หรือน้อยกว่าน้น เพียงแค่ได้เห็น ได้ใกล้ชิด
ี
หรือได้สัมผัสตัวเด็กถึงแม้ว่าเด็กในช่วงอายุดังกล่าวจะมีสรีระและลักษณะทางร่างกายเจริญเติบโตไม่เต็มที่แต่คนกลุ่มนี้
มักจะมองเด็กว่าเป็นสิ่งที่มีแรงดึงดูดทางเพศหรือมองเด็กในแง่ของการเป็น “วัตถุทางเพศ”
ในปัจจุบัน คดีท่เก่ยวกับการละเมิดทางเพศเด็กถูกพบมากข้นโดยเฉพาะผ่านช่องทางออนไลน์ แน่นอนว่าในยุคสมัย
ี
ึ
ี
ี
ุ
�
้
ื
ี
ี
ท่ผู้คนต่างใช้การส่อสารผ่านออนไลน์เช่นน้ จึงเป็นเหตให้ง่ายต่อการกระทาเช่นนด้วย ในการจัดการกับคดีต่าง ๆ
ที่เกี่ยวของกับการละเมิดทางเพศเด็กของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เกือบ 100% เป็นการค้นพบจากการสืบค้นทั้งสิ้น เนื่องจาก
้
ี
ี
ี
ี
้
�
คดีในลักษณะน้ เด็กและเยาวชนคือผู้ถูกกระทา ซงขอทาทายของการทาคดน คือการท่ไม่มีผู้เสียหายกล้ามาแจ้งความดาเนินคด ี
่
้
ึ
�
�
้
ี
ี
�
ี
กับผู้กระทาความผิดหรือร้องเรียนต่อหน่วยงานท่เก่ยวข้อง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลท่ตัวเด็กมีความกลัว ความอาย หรือความไม่ร ู้
ื
่
ิ
ุ
ึ
ิ
ี
่
ู
ในการถกกระทา เมอเกดเหตการณ์ล่วงละเมดทางเพศข้นจึงไม่กล้าบอกผู้ปกครองและไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง การทจะ
�
ด�าเนินคดีกับผู้กระท�าผิดได้ จึงต้องเริ่มสืบจากตัวผู้กระท�าผิด เช่น เมื่อพบเบาะแสว่ามีบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายละเมิด
ทางเพศเด็กหรือมีอาการของโรคใคร่เด็ก
้
เด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศในอดีตนั้น การที่จะพาเด็กมาลวงละเมิดทางเพศได ตองเกิดจาก
่
้
การหลอกลวงพาตัวเด็กมาเกี้ยวพาราสี สัมผัสตัวเด็ก แต่ในปัจจุบันการกระท�าที่เข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศเด็กสามารถ
ท�าได้ผ่านทางออนไลน์ ท�าให้เป็นภัยอันตรายที่ใกล้ตัวเด็กมากขึ้น นอกจากนี้ การกระท�าที่เข้าข่ายหลอกลวงให้เด็กมีความ
่
รสกไวเนอเชอใจ หรอใหในสงทเดกขาด หรือการพูดจาแทะโลม เพ่อจุดประสงค์ท่ต้องการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก การกระทา
ี
็
�
ู
้
ื
ื
ื
ี
่
้
ื
ึ
้
้
่
ิ
ื
ี
ึ
ี
ั
ี
่
้
ื
่
็
่
ี
แบบนในตางประเทศนนเปนเรองทผดกฎหมาย แต่ในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเก่ยวกับเร่องน้อย่างชัดเจน ซ่งตัวผู้เขียนเอง
ิ
้
ก็อยู่ในคณะกรรมการร่างกฎหมายเรื่องนี้ด้วย ในปัจจุบันมีการพูดคุยกันทางโลกออนไลน์ ท�าให้เรื่องเหล่านี้สามารถเข้าถึง
ตัวเด็กได้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่าเป็นภัยคุกคามที่ไม่ต้องเข้าไปงัดประตูบ้านก็สามารถเข้าถึงห้องนอนเด็กได้เลย ซึ่งเป็นมิติของ
วิวัฒนาการจากในอดีตที่กว่าจะเข้าถึงตัวเด็กได้ค่อนข้างยาก แต่ในปัจจุบันง่ายกว่าเดิมมากขึ้นหลายเท่าตัว อาจจะมีการ
�
ข่มขืน กระทาอนาจาร หรือมีการกรรโชกได้ เพียงแค่ให้เด็กส่งภาพตัวเองให้โดยการล่อลวงและข่มขู่เรียกเงินทอง
ซ่งในส่วนของตัวเจ้าหน้าท่เองต้องมีโมเดลหรือรูปแบบการทางานท่เปล่ยนไปจากเดิมเป็นแบบ Physical (เผชิญหน้า)
ี
ึ
ี
ี
�
�
้
ี
้
์
็
�
ี
แต่ถ้าการกระทาผิดของอาชญากรเปนแบบออนไลน เจาหนาทกตองปรับเปล่ยนรูปแบบการทางานใหม่ให้เท่าทันอาชญากรด้วย
่
้
็
ซ่งในส่วนน้จะสามารถนามาเช่อมโยงกับภารกิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพราะโมเดลรูปแบบแผนประทุษกรรมของ
ี
ื
ึ
�
ี
ี
�
กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการสร้างการสืบสวนแบบออนไลน์ข้นมาแล้ว สามารถดาเนนคดกบผ้กระทาความผดทใช้
ิ
่
ั
ู
�
ึ
ิ
สื่อออนไลน์ได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287/1 และ 287/2 ส่งผลให้ผู้ที่มีภาพลามกอนาจารเด็กครอบครอง
5
4
จะมีโทษจ�าคุก 5 ปี
4 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศส�าหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจ�าคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจ�าทั้งปรับ
ถ้าผู้กระท�าความผิดตามวรรคหนึ่งส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจ�าคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจ�าทั้งปรับ
5 ผู้ใด
่
ื
�
ื
ั
�
ื
่
�
(1) เพ่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพ่อการแจกจ่ายหรือเพ่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทา ผลิต มีไว้ นาเข้าหรือยังให้นาเข้าในราชอาณาจักร สงออกหรอยงใหสงออกไปนอกราชอาณาจกร
้
ื
ั
พาไปหรือยังให้พาไปหรือท�าให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก
(2) ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก
(3) เพื่อจะช่วยการท�าให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ ว่ามีบุคคลกระท�าการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าสื่อลามกอนาจารเด็ก
ดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใดหรือโดยวิธีใด
ึ
ต้องระวางโทษจาคุกต้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับต้งแต่หกหม่นบาทถงสองแสนบาท
ื
�
ั
ั
วารสาร 56 DSI