ดีเอสไอจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ (บังคับค้าประเวณีที่ประเทศมาเลเซีย) จำนวน ๓ ราย
published: 24/7/2558 12:57:56 updated: 24/7/2558 12:57:56 1158 views TH
ดีเอสไอจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ (บังคับค้าประเวณีที่ประเทศมาเลเซีย) จำนวน ๓ ราย
วันศุกร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๑.๐๐ น. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ พ.ต.ต.อาริชย์ ทัศน์พันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม ๓ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ามนุษย์หลอกลวงผู้หญิงไทยผ่าน Facebook ไปบังคับค้าประเวณีในประเทศมาเลเซีย
ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการประสานข้อมูลจากมูลนิธิฟรีแลนด์ว่า มีหญิงไทยขอความช่วยเหลือจากการถูกนายหน้าชาวต่างชาติและภรรยาคนไทยหลอกลวงบังคับให้ค้าประเวณีในพื้นที่ย่านกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ภายหลังผู้เสียหายได้หลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมูลนิธิฟรีแลนด์ได้เดินทางไปรับผู้เสียหายที่สนามบิน และขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว
ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหากับพวกมีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายผ่านทาง Facebook โดยใช้ชื่อว่านายสตีเว่น โลว์, นายสตีเว่น พัทยา ฯลฯ อ้างว่าตนเองมีหุ้นส่วนในกิจการหลายประเภท เช่น ร้านสปา ร้านคาราโอเกะในโรงแรมระดับห้าดาวหลายแห่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีรายได้ประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน นายสตีเว่นฯ จะเป็นคนพาผู้เสียหายไปกรุงกัวลาลัมเปอร์โดยรถทัวร์ แต่เมื่อผู้เสียหายถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์กลับปรากฏว่าสถานที่ทำงานไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ โดยนายสตีเว่นฯ ได้ขายผู้เสียหายให้กับผู้ต้องหาอีกรายซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย เป็นผู้ควบคุมผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายจะตกเป็นหนี้จำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท และจะต้องหักหนี้จากค่าจ้างการทำงาน ผู้เสียหายจะต้องทำงานในสถานที่ที่ผู้ต้องหากำหนดไว้ให้ ซึ่งมีสภาพบังคับให้ค้าประเวณีโดยที่ผู้เสียหายไม่เต็มใจ มีคนคอยควบคุมผู้เสียหายตลอดเวลา ผู้เสียหายอาศัยอยู่ในบ้านพักที่มีการล็อคประตูจากด้านนอก และมีคนคอยควบคุมประตูเข้าออกสถานที่ทำงานด้วยรีโมทคอนโทรล ผู้เสียหายบางรายถูกยึดหนังสือเดินทาง กรณีนี้ผู้เสียสามารถหลบหนีออกมาได้ และได้ขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคดีนี้เป็นความผิดตามกฎหมายไทยได้กระทำนอกราชอาณาจักรไทย อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ
ต่อมาศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน ๔ ราย เป็นชาวมาเลเซียจำนวน ๒ ราย ชาวไทย ๒ ราย และเมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน ๓ ราย ได้แก่
๑.นายเค็ง เซียง โลว์ (Mr.Kheng Hsiang Low) หรือ นายสตีเว่น โลว์ ชาวมาเลเซียจับกุมได้ที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต
๒.นางรัชดาพรรณ หรือนุ หรือนุช แสนเกษม จับกุมได้ที่บริเวณบ้านพักย่านบางบอน-บางขุนเทียน
๓.นางกัลยา สมศรี จับกุมได้ที่บริเวณบ้านพัก อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
ในความผิดฐาน ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปหรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรม กระทำการค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยการบังคับค้าประเวณี ร่วมกันกระทำเพื่อให้ผู้เสียหายที่ถูกพาเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรอยู่ในอำนาจของผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์การอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น ร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานในต่างประเทศได้ ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับอีก ๑ รายซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังติดตามจับกุมตัวอยู่
ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ขอแจ้งเตือนกับประชาชนอย่าได้หลงเชื่อหรือติดต่อสมัครงานเพื่อไปทำงานในประเทศมาเลเซียผ่านทาง Facebook ซึ่งผู้ต้องหากับพวกได้ใช้ Facebook ในการหาผู้หญิงที่ต้องการไปทำงานในประเทศมาเลเซียดังนี้
๑.Steveninternational
๒.Stevenliew ๘๗
๓.Stevenlow ๓๓๖๖
๔.Steventhailand ๒๐๑๔
ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการประสานข้อมูลจากมูลนิธิฟรีแลนด์ว่า มีหญิงไทยขอความช่วยเหลือจากการถูกนายหน้าชาวต่างชาติและภรรยาคนไทยหลอกลวงบังคับให้ค้าประเวณีในพื้นที่ย่านกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ภายหลังผู้เสียหายได้หลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมูลนิธิฟรีแลนด์ได้เดินทางไปรับผู้เสียหายที่สนามบิน และขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว
ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหากับพวกมีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายผ่านทาง Facebook โดยใช้ชื่อว่านายสตีเว่น โลว์, นายสตีเว่น พัทยา ฯลฯ อ้างว่าตนเองมีหุ้นส่วนในกิจการหลายประเภท เช่น ร้านสปา ร้านคาราโอเกะในโรงแรมระดับห้าดาวหลายแห่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีรายได้ประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน นายสตีเว่นฯ จะเป็นคนพาผู้เสียหายไปกรุงกัวลาลัมเปอร์โดยรถทัวร์ แต่เมื่อผู้เสียหายถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์กลับปรากฏว่าสถานที่ทำงานไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ โดยนายสตีเว่นฯ ได้ขายผู้เสียหายให้กับผู้ต้องหาอีกรายซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย เป็นผู้ควบคุมผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายจะตกเป็นหนี้จำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท และจะต้องหักหนี้จากค่าจ้างการทำงาน ผู้เสียหายจะต้องทำงานในสถานที่ที่ผู้ต้องหากำหนดไว้ให้ ซึ่งมีสภาพบังคับให้ค้าประเวณีโดยที่ผู้เสียหายไม่เต็มใจ มีคนคอยควบคุมผู้เสียหายตลอดเวลา ผู้เสียหายอาศัยอยู่ในบ้านพักที่มีการล็อคประตูจากด้านนอก และมีคนคอยควบคุมประตูเข้าออกสถานที่ทำงานด้วยรีโมทคอนโทรล ผู้เสียหายบางรายถูกยึดหนังสือเดินทาง กรณีนี้ผู้เสียสามารถหลบหนีออกมาได้ และได้ขอความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคดีนี้เป็นความผิดตามกฎหมายไทยได้กระทำนอกราชอาณาจักรไทย อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ
ต่อมาศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน ๔ ราย เป็นชาวมาเลเซียจำนวน ๒ ราย ชาวไทย ๒ ราย และเมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน ๓ ราย ได้แก่
๑.นายเค็ง เซียง โลว์ (Mr.Kheng Hsiang Low) หรือ นายสตีเว่น โลว์ ชาวมาเลเซียจับกุมได้ที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต
๒.นางรัชดาพรรณ หรือนุ หรือนุช แสนเกษม จับกุมได้ที่บริเวณบ้านพักย่านบางบอน-บางขุนเทียน
๓.นางกัลยา สมศรี จับกุมได้ที่บริเวณบ้านพัก อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
ในความผิดฐาน ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปหรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรม กระทำการค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยการบังคับค้าประเวณี ร่วมกันกระทำเพื่อให้ผู้เสียหายที่ถูกพาเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรอยู่ในอำนาจของผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์การอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น ร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานในต่างประเทศได้ ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับอีก ๑ รายซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังติดตามจับกุมตัวอยู่
ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ขอแจ้งเตือนกับประชาชนอย่าได้หลงเชื่อหรือติดต่อสมัครงานเพื่อไปทำงานในประเทศมาเลเซียผ่านทาง Facebook ซึ่งผู้ต้องหากับพวกได้ใช้ Facebook ในการหาผู้หญิงที่ต้องการไปทำงานในประเทศมาเลเซียดังนี้
๑.Steveninternational
๒.Stevenliew ๘๗
๓.Stevenlow ๓๓๖๖
๔.Steventhailand ๒๐๑๔