ดีเอสไอระบุธุรกิจรับจ้างท้องโดยสมัครใจไม่เข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์
published: 13/8/2557 12:13:06 updated: 13/8/2557 12:13:06 2693 views THดีเอสไอระบุธุรกิจรับจ้างท้องโดยสมัครใจไม่เข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์
พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยกับ “ไทยรัฐ” ในประเด็น การรับจ้างอุ้มบุญว่า การรับจ้างอุ้มบุญ เป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องในหลายประเด็น กล่าวคือ เรื่องของสิทธิส่วนบุคคล สิทธิในร่างกาย ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และจรรยาแพทย์ ในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีกฎหมาย ควบคุม กำกับดูแลในเรื่องการอุ้มบุญโดยตรง อย่างไรก็ดี มีกฎหมายเกี่ยวกับทางการแพทย์ ระเบียบข้อบังคับของแพทยสภา ควบคุมกำกับดูแลการอุ้มบุญอยู่ โดยเป็นมาตรการกำกับดูแลทางวิชาชีพ คือ ใช้บังคับกับแพทย์ หรือสถานพยาบาล เท่านั้น
การให้คนอื่นตั้งครรภ์แทนจึงสามารถทำได้ในบางกรณี ดังนั้น หากไม่มีการบังคับขู่เข็ญ หลอกลวง ให้มีการอุ้มบุญ เป็นการดำเนินการโดยสมัครใจของผู้อุ้มบุญก็ยังไม่เข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ จึงเป็นช่องว่างให้ชาวต่างชาติใช้วิธีจ้างสาวไทยอุ้มบุญแทนด้วยความสมัครใจที่ไม่สามารถเอาผิดได้
“การอุ้มบุญยังไม่เข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ ดังนั้น หากมีการให้ผู้อื่นตั้งครรภ์แทน เด็กที่คลอดก็ต้องเป็นบุตรของหญิงคนนั้น ตามหลักการของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ว่า เด็กที่เกิดจากหญิงคนใด ให้ถือว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของหญิงคนนั้น และเมื่อในขณะนี้เป็นเรื่องของกฎหมายแพ่ง ยังไม่ได้เป็นประเด็นในเรื่องการค้ามนุษย์ จึงมิได้เป็นภารกิจในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษโดยตรง” พล.ต.อ.ชัชวาลย์ กล่าว
ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับการป้องกันมิให้การอุ้มบุญกลายเป็นปัญหาการค้ามนุษย์นั้น ขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างศึกษา และหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข แพทยสภา กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อผลักดันให้มีกฎหมายเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบังคับใช้ระเบียบกฎหมาย เท่าที่มีอยู่อย่างจริงจัง เช่น พ.ร.บ.สถานพยาบาล หรือ พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพแพทย์ โดยเฉพาะเกี่ยวกับจริยธรรมของแพทย์ ในขณะนี้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.การตั้งครรภ์ โดยอาศัยเทคโนโลยี ช่วยการเจริญพันธ์ทางการแพทย์ พ.ศ. .... แล้ว อยู่ระหว่างการนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาออกเป็นกฎหมายต่อไป
**********************