DSI,สตม. ร่วมกับตำรวจสวิตเซอร์แลนด์ รวบแฮกเกอร์รัสเซียชื่อดังในเว็บวิกิพีเดียความเสียหายกว่า ๔ พันล้านเหรียญสหรัฐ

DSI,สตม. ร่วมกับตำรวจสวิตเซอร์แลนด์ รวบแฮกเกอร์รัสเซียชื่อดังในเว็บวิกิพีเดียความเสียหายกว่า ๔ พันล้านเหรียญสหรัฐ                     

                 สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร้องขอผ่านสถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ขอให้สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากห้วงปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศสวิตเซอร์แลนด์    ทำการสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มชาวต่างชาติต้องสงสัย สัญชาติรัสเซีย และโมร็อกโก เจาะข้อมูลเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์และดัดแปลงหน้าเว็บไซต์ สถาบันการเงินและสื่อมวลชนในทวีปยุโรป ทำให้บุคคลโดยทั่วไปหลงเชื่อว่าเป็นหน้าเว็บไซต์ที่แท้จริง และทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเว็บไซต์ที่ทำปลอมขึ้น เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับความเสียหายหลายพันราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า ๔ พันล้านบาท

                    สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการส่วนคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ๑  และคณะ ทำการสืบสวนทราบว่า กลุ่มชาวต่างชาติต้องสงสัยที่ได้รับข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย นำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดใช้ชีวิตหรูหรา ในกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทย ทราบชื่อผู้กระทำความผิดคือ นายฟาริด เอสเซ็บบาร์ อายุ ๒๗ ปี สัญชาติรัสเซีย กับพวกรวม ๓ คน

               หลังจากทราบข้อมูลผู้กระทำความผิดแล้ว ได้ประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับ พ.ต.อ.ทิฆัมพร ศรีสังข์ ผู้กำกับการ ๒ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อย่างต่อเนื่อง จนทราบว่า ห้วง ๔ ปี ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวมีความเคลื่อนไหวอยู่ใน    ประเทศไทย และเดินทางเข้าออกประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

                    สำนักกิจการต่างประเทศฯและกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันสืบสวนในประเทศไทยเป็นเวลานานกว่า ๒ ปี จนทราบแน่ชัดว่า นายฟาริด เอสเซ็บบาร์ กับพวก เป็นบุคคลคนเดียวกันกับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ต้องการตัว จึงส่งพยานหลักฐานไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเสนอต่อศาลประเทศสวิตเซอร์แลนด์ออกหมายจับในความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ต่อมาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ร้องขอให้  กรมสอบสวนคดีพิเศษจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ศาลอาญาได้ออกหมายจับ นายฟาริด เอสเซ็บบาร์ ในความผิดฐานส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตามที่สวิตเซอร์แลนด์ร้องขอ

                    วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ภายใต้การอำนวยการจับกุมของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายเพิ่มพูน พึ่งประสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ

                    ร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ภายใต้การอำนวยการจับกุมของ พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม., พล.ต.ต.วราวุธ ทวีชัยการ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.เฉลิมพล จินตรัตน์ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.ท.ประวิทย์ ศิริธร รอง ผกก.๒ บก.สส.สตม. และ ร.ต.อ.พัฒนพงษ์ โรจนวานิชกิจ รอง สว.กก.๒ บก.สส.สตม.

           ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายฟาริด เอสเซ็บบาร์ จับกุมตัวได้ที่บริเวณใต้คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่าน ถ.พระราม ๙ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลาง เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา จำนวน ๒ เครื่อง เครื่องโทรศัพท์มือถือ ๑ เครื่อง นำส่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินคดี

                    ต่อมา เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗ ศาลอาญาไต่สวนกรณีดังกล่าวแล้ว พิพากษาให้ส่งตัวนายฟาริด เอสเซ็บบาร์ ไปดำเนินคดีในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.๒๕๕๑ ซึ่งจะส่งตัวไปสวิตเซอร์แลนด์ ภายในกำหนด ๙๐ วัน นับแต่วันที่ศาลพิพากษาต่อไป  ส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สำนักกิจการต่างประเทศฯส่งให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจพิสูจน์ ต่อไปแล้ว

                    จากการตรวจสอบข้อมูลนายฟาริด เอสเซ็บบาร์ ทราบว่า เป็นบุคคลคนเดียวกันกับในเว็บวิกิพีเดีย ซึ่งให้ข้อมูลว่าเป็นอาชญากรทางคอมพิวเตอร์ชื่อดัง เคยแฮกเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของสื่อมวลชนหลายแห่ง ซึ่งไมโครซอฟท์และเอฟบีไอ ต้องการตัวเช่นเดียวกัน