DSI บุกจับแหล่งจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ดังปลอมเครื่องหมายการค้า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

published: 28/1/2558 16:57:32 updated: 28/1/2558 16:57:32 1327 views   TH
 

DSI บุกจับแหล่งจำหน่ายนาฬิกาแบรนด์ดังปลอมเครื่องหมายการค้า

ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

 

 

                วันนี้ (วันที่ 28 มกราคม 2558) เวลา 14.00 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นางกรรณิกา ริมโพธิ์เงิน รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา นายจักราคม ลิ่วมโนมนต์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา และพ.ต.ท.สุมิตร ชโนวิทย์ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1 ได้ร่วมกันแถลงข่าวการเข้าจับกุมแหล่งจำหน่ายสินค้าประเภทนาฬิกานาฬิกายี่ห้อดัง ปลอมและเลียนเครื่องหมายการค้า โดยสินค้าดังกล่าวส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง

เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2558 เวลาประมาณ 13.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ นางกรรณิกา ริมโพธิ์เงิน 
รองผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา
 และ พ.ต.ท.สุมิตร ชโนวิทย์ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1 เจ้าหน้าที่สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ได้ร่วมกันเข้าทำการตรวจค้นร้านจำหน่ายนาฬิกาชื่อ มังกี้ แทททู บริเวณถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต และจุดเก็บสินค้าบริเวณถนนนาใน ตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต

ผลการตรวจค้นพบนาฬิกาปลอมและเลียนเครื่องหมายการค้ายี่ห้อต่างๆ เช่น โรเล็กซ์ (ROLEX) , บูลการี่ (BVLGARI) , คาร์เทียร์ (CARTIER) , ชาแนล (CHANEL) , มองท์บลังค์ (MONTBLANC) , โอเมก้า (OMEGA) , ปาเต๊ก ฟิลิปป์ (PATEK PHILIPPE) และ กุชชี่ (GUCCI) เป็นต้น จำนวน ๓,๕๗๒ ชิ้น มูลค่าของกลาง(ตามราคาของปลอม) ประมาณ ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าว พร้อมทั้งได้จับกุมนาย ดว่าน วัน เชิง เจ้าของร้านชาวเวียดนาม นำส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีในข้อหา เสนอจำหน่าย และมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าปลอมและเลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร 

ทั้งนี้ เนื่องจากสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ได้ทำการสืบสวนพบว่าร้านดังกล่าวได้ลักลอบจำหน่ายนาฬิกาปลอมและเลียนเครื่องหมายการค้า จึงได้วางแผนเข้าทำการตรวจค้นจับกุม ซึ่งสินค้าดังกล่าวส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534

อนึ่ง ในการตรวจค้นครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (NICE) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มีนโยบายในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจังในทุกมิติ จากการที่ประเทศไทยถูกสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) จัดอันดับสถานะทางการค้าให้อยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) ในเรื่องของการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งมีผลทำให้ประเทศไทยต้องถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯ และสูญเสียโอกาสทางการค้าเป็นอย่างมากจนถึงปัจจุบัน

Lasted Post

Related Post