DSI เชิญประชุมส่วนราชการหารือแนวทางการดำเนินคดีที่มีผลกระทบต่อประชาชน ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

published: 2/8/2562 15:45:51 updated: 2/8/2562 15:45:51 1276 views   TH
 

DSI เชิญประชุมส่วนราชการหารือแนวทางการดำเนินคดีที่มีผลกระทบต่อประชาชน

ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

       สืบเนื่องจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้สั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีสำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบโดยเฉพาะเรื่องที่มีผลกระทบต่อประชาชนให้เกิดผลเป็นที่ประจักษ์ รวมถึงคดีการทุจริตภายในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่มีการสอบสวนขยายผลไปถึงกระบวนการฟอกเงิน โดยต้องเร่งรัดการสอบสวนคดีที่ยังดำเนินการไม่เสร็จและติดตามผู้ที่ศาลออกหมายจับที่ยังหลบหนีอยู่เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามขั้นตอนของกฎหมาย ดังนั้น ในวันนี้ (2 สิงหาคม 2562) เวลา 13.30 น. พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้เชิญประชุมหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย พันตำรวจโท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท ปกรณ์ สุชีวะกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายผล ดำธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พลตำรวจตรี สุรพงศ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พันเอก สัญญลักษณ? ทั่งศิริรอง รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปทุมธานี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ปลัดจังหวัดปทุมธานี นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง และผู้เกี่ยวข้อง มาหารือร่วมกันที่ห้องประชุม 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร 

       เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจถึงบริบทของคดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตภายในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ขอเรียนว่ากรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อ พ.ศ.2556 มีกลุ่มสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ได้เข้าร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษสอบสวนดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตภายในสหกรณ์ฯ โดยกล่าวหา นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารสหกรณ์ฯ กับพวก ว่ากระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์และ/หรือฉ้อโกงประชาชน ซึ่งคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2556 รับเรื่องดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษ โดยเป็นคดีพิเศษที่ 146/2556 คดีดังกล่าวมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 13,000 ล้านบาท ทางคดีพนักงานอัยการได้ให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และยื่นฟ้องนายศุภชัย ฯ กับพวก ในความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา และเมื่อ พ.ศ.2557 ในระหว่างที่สอบสวนคดีพิเศษที่ 146/2556 ได้มีกลุ่มผู้เสียหายที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร และผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่า ระหว่าง พ.ศ.2549 - 2556 มีการตบแต่งบัญชีงบการเงินให้เห็นว่าสหกรณ์ฯ มีผลประกอบการดีจนได้รับรางวัลว่าเป็นสหกรณ์ดีเด่น จนทำให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อและนำเงินเข้าฝากกับสหกรณ์เป็นจำนวนมาก ภายหลังมีการนำเงินออกจากสหกรณ์ไปโดยทุจริตดังที่สอบสวนพบ จึงแยกสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 63/2557 ซึ่งการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการเห็นพ้องกันว่ามีพยานหลักฐานพอฟ้อง โดยพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลแล้ว ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญา

    

       สืบเนื่องจากคดีดังกล่าว ในปี พ.ศ.2559 พนักงานอัยการผู้พิจารณาสำนวนได้มีหนังสือแนะนำให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีอาญากับผู้ที่มีพฤติการณ์โอน รับโอน หรือได้มาซึ่งทรัพย์สินที่ได้จากการ  กระทำความผิดมูลฐาน แล้วปกปิด ซุกซ่อน เปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สินในความผิดฐานฟอกเงินแยกต่างหากจากคดีอาญามูลฐานเรื่องฉ้อโกงประชาชน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษมีการสอบสวนดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน จำนวน 23 คดี ในกลุ่มนี้มีการสอบสวนเสร็จและส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการแล้ว จำนวน 12 คดี และมี 1 คดี ที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงได้ส่งสำนวนไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.แล้ว โดยยังมีคดีฟอกเงินที่อยู่ระหว่างการสอบสวนอีก 10 คดี และนอกจากนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษยังดำเนินคดีกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์ฯ จำนวน 27 ล้านบาทเศษ เป็นคดีพิเศษที่ 64/2557 อีกคดีหนึ่ง โดยคดีนี้ศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายศุภชัยฯ 13 ปี ขณะนี้นายศุภชัยฯ ถูกจำคุกตามคำพิพากษาดังกล่าว รวมมีคดีที่สอบสวนดำเนินคดีโดย กรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งหมด 27 คดี สอบสวนเสร็จ 17 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 10 คดี

       สำหรับกรณีของวัดพระธรรมกาย พระธัมมชโย และบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นคดีพิเศษที่ 27/2559 มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 1,458 ล้านบาทเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2559 โดยศาลอาญาได้ออกหมายจับพระธัมมชโย หรือพระไชยบูลย์สุทธิผล อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งหลบหนีไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุม การประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในวันนี้ เป็นการหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าวเพื่อรับทราบสถานการณ์และบูรณาการข้อมูล รวมถึงหารือในประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแนวทางการยึด อายัด และจัดการของวัดพระธรรมกายตามคำสั่งของศาลแพ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีอาญาในเรื่องเดียวกัน ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่มีข้อมูลหรือเบาะแสในเรื่องดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ  แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210.หรือโทร.1202 สายด่วน กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทรฟรีทั่วประเทศ ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะรักษาข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ

Lasted Post

Related Post