ดีเอสไอ ร่วม ป.ป.ส. ตร. ทหาร ปฏิบัติการ “ยุทธการทำลายเครือข่ายยาเสพติดแม่น้ำโขง 2.1

ดีเอสไอ ร่วม ป.ป.ส. ตร. ทหาร

ปฏิบัติการ “ยุทธการทำลายเครือข่ายยาเสพติดแม่น้ำโขง 2.1

          วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2558 นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้   พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ ๓ พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ฉิมกรา รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ นำทีมเจ้าหน้าที่ สคอ.๓ ร่วมปฏิบัติการ “ยุทธการทำลายเครือข่ายยาเสพติดแม่น้ำโขง 2.1” โดยสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการกองทัพไทย เข้าตรวจค้นเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ รวม 4 ราย ดังนี้

                    1. นายภาวี เลิศกฤติกรโรจน์ อายุ ๓๑ ปี ที่อยู่เลขที่ 217/1 ม.2 ต.เวียง อ.เทิง จ.เชียงราย ตามหมายจับศาล จ.สมุทรปราการ ที่ จ.84/2558

                    2. นายมนตรี แซ่อึ้ง อายุ 32 ปี ที่อยู่เลขที่ 754 ม.7 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ หมายจับศาล จ.สมุทรปราการ ที่ จ.83/2558

                    3. นายนิกร แซ่ลี อายุ 20 ปี ที่อยู่เลขที่ 34 ม.15 ต.ป่าซาง อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย หมายจับศาล จ.สมุทราปราการ ที่ จ.88/2558

                    4. นายกฤษณันท์ มณีโรจน์ อายุ 43 ปี ที่อยู่เลขที่ 5 ซ.ราษฎร์อุทิศ ต.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับศาล จ.สงขลา ตามหมายจับศาล จ.สงขลา หมายจับศาล ที่ 60/2550 ข้อหาร่วมกันมียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย

          จากการสืบสวนเครือข่ายการค้ายาเสพติดนายภาวี เลิศกฤติธร นั้น พบว่าเป็นเครือข่ายการค้ายาเสพติดที่สามารถจัดหายาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า และพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว ได้คราวละจำนวนมาก การลักลอบลำเลียงจะใช้เส้นทางตามแม่น้ำโขงตามบริเวณสามเหลี่ยมทองคำทอดยาวตลอดมาถึงพื้นที่ด้าน จ.เลย จ.หนองคาย เป็นจุดลักลอบนำเข้ายาเสพติด ลำเลียงเข้าพื้นที่ตอนใน ให้เครือข่ายเก็บพัก  และจำหน่ายให้กับนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพ สมุทรปราการ นนทบุรี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เคยจับกุมเครือข่ายนายภาวี เลิศกฤติธร ไปแล้วหลายรายและมีการยึดทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากนายภาวี เลิศกฤติธร ยังไม่ถูกจับกุมจึงยังสามารถจัดหายาเสพติดเข้ามาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทาง สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ได้จับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายที่เป็นลูกค้ายาเสพติดของ นายภาวี เลิศกฤติธร และสามารถขยายผลจนสามารถออกหมายจับกุมนายภาวี เลิศกฤติธร นายมนตรี แซ่อึ้ง และนายนิกร แซ่ลี ได้ในที่สุด และได้ทำการขยายผลยึดทรัพย์สิน ดังนี้

1.   เงินในบัญชีธนาคารประมาณ 25 ล้านบาท

2.   รถยนต์รวม 9 รายการ เป็นรถยนต์ 6 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน

3.   ที่ดินพร้อมบ้านพักอาศัย รวม 8 แปลง เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่

รวมทรัพย์สินทั้งสิ้นมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท

          ในขณะเดียวกันอีกชุดปฏิบัติการ ได้เข้าการจับกุมนายกฤณันท์ มณีโรจน์ ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับศาล จังหวัดสงขลา ตั้งแต่ปี 2549 และเคยเป็นนักค้ายาเสพติด ที่สำนักงาน ป.ป.ส.และตำรวจภูธรภาค 9 ต้องการตัวมากที่สุด หลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี แต่ยังมีพฤติการณ์จัดหายาเสพติดจากด้านพื้นที่ จ.เชียงราย และพื้นที่ภาคกลาง ให้เครือข่ายลำเลียงไปจำหน่ายในพื้นที่ภาคใต้ จนกระทั่งสืบสวนพบว่าหลบหนีมาพักอาศัยที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี และเฝ้าติดตามจนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยได้ขยายผลตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้อง รวม 4 จุด  ในพื้นที่ จ.นนทบุรี และ จ.สงขลา ผลการปฏิบัติสามารถยึด/อายัดทรัพย์สิน ได้แก่ บ้านพักอาศัยที่ จ.นนทบุรี อพาตเมนท์ รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆ ของนายกฤณันท์ มณีโรจน์ ในพื้นที่ จ.สงขลา มูลค่ารวมประมาณ 15 ล้านบาท

รวมทรัพย์สินทั้งสองคดี สิ้นมูลค่ารวมประมาณ 50 ล้านบาท