ศาลสั่งแชร์ลูกโซ่จานดาวเทียม ลงโทษปรับ 33 ล้านบาท - จำคุก 20 ปี

ศาลสั่งแชร์ลูกโซ่จานดาวเทียม ลงโทษปรับ 33 ล้านบาท - จำคุก 20 ปี

เมื่อปี พ.ศ. 2551 มีกลุ่มผู้เสียหายจากการนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจจานดาวเทียมกับบริษัท แอนิเมท อินเตอร์เน็ตเวิร์ค จำกัด ประมาณ 30 คน เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับกรมสอบสวนคดีพิเศษและขอให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวว่า มีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชน ในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ให้ผู้เสียหายลงทุนเพียง 2,000 บาท และจะได้รับผลตอบแทนถึง 4,000 บาท ซึ่งบริษัทยืนยันกับสมาชิกว่า การดำเนินธุรกิจดังกล่าวไม่ใช่ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ จึงทำให้มีผู้เสียหายเข้าร่วมทุนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท จากนั้นบริษัทได้ปิดกิจการลง

กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินคดี (คดีพิเศษเลขที่ 32/2551) กับบริษัทแอนิเมท อินเตอร์เน็ตเวิร์ค จำกัด (จำเลยที่1) และนางศรัญรัชญ์ หรือ นพลักษณ์ หรือ วราภัสร์ หรือ ธนพร ปราวิล (จำเลยที่2) ในความผิดต่อพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งด้วยการโฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชนตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ให้มาร่วมลงทุนทำธุรกิจขายตรงเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าประเภทอุปโภคบริโภคหลายชนิด รวมทั้งทำธุรกิจการลงทุนเกี่ยวกับการแพร่ภาพสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมในระบบบอกรับสมาชิก โดยมีผลตอบแทนให้แก่สมาชิกในจำนวนที่สูงตามแผนการลงทุนที่กำหนดไว้ แต่ความจริงแล้วจำเลยทั้งสองมิได้นำเงินไปลงทุนตามที่ได้ร่วมกันโฆษณาไว้

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 345 วรรคแรก ประกอบมาตรา 341, 83 พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4, 5, 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 อันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 โดยลงโทษปรับจำเลยที่ 1 กระทงละ 600,000 บาท รวม 55 กระทง เป็นเงิน 33,000,000 บาท และลงโทษจำเลยที่ 2 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 55 กระทง เป็นจำคุก 275 ปี แต่ความผิดที่กระทำมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีแต่ไม่เกินสิบปี คงจำคุกเพียง 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) กับให้จำเลยทั้งสองรวมกันคืนหรือชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหายพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน และคดีถึงที่สุดแล้ว (คดีหมายเลขดำที่ 576/2559,
คดีหมายเลขแดงที่ 6556/2559)

    กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงขอฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังในการชักชวนให้ลงทุนร่วมทำธุรกิจที่อ้างว่ามีผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ กลุ่มเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดี คือ กลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์จากการหลอกหลวงประชาชน จึงขอให้ระมัดระวังการชักชวนผู้อื่นให้ลงทุนในลักษณะดังกล่าว

    อนึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังเร่งติดตามดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่อีกหลายคดี ซึ่งคาดว่า จะทยอยแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับเพื่อนำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป