สรุปผลการประชุม ศรส. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557

published: 6/2/2557 14:35:59 updated: 6/2/2557 14:35:59 1960 views   TH
 

สรุปผลการประชุม ศรส. วันนี้  (๖  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๗)   

 

ประชุมศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. มีเรื่องสำคัญแจ้งพี่น้องประชาชน ดังนี้

 

๑. ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับเพื่อการจับกุมและควบคุมตัวแกนนำ กปปส.  อันได้แก่    นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ กับพวก รวม ๑๙ คน โดยเป็นหมาย ฉ.ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ  ทั้งนี้ การดำเนินการขอหมายจับดังกล่าวเป็นการขอในนามของ ศรส. โดยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจและ DSI  จากนี้ไปเจ้าหน้าที่ของ ศรส. จะได้เข้าดำเนินการจับกุม และเมื่อจับกุมได้แล้วจะต้องนำไปควบคุม ณ สถานที่อันมิใช่เรือนจำ ซึ่งได้แก่ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค ๑  จังหวัดปทุมธานี  เป็นเวลาไม่เกิน ๗ วัน  หากครบกำหนดให้ขอศาลขยายเวลาควบคุมได้อีกครั้งละ ๗ วัน แต่ต้องไม่เกิน ๓๐ วัน  หลังจากนั้นก็จะมีการขอศาลควบคุมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป   ศรส. ขอชี้แจงว่า บุคคลทั้ง ๑๙ คน และรวมถึงที่จะได้ยื่นขออนุญาตศาลจับอีก ๓๙ คน จนครบ ๕๘ คนนั้น  ล้วนร่วมกันกระทำความผิดในข้อหาฉกรรจ์ทั้งสิ้น  แต่การที่ ศรส. มุ่งดำเนินคดีตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ  ก่อนนั้น ก็เพื่อสะดวกในการควบคุมตัวตามที่กฎหมายให้ไว้ ๓๐ วัน จากนั้นจึงจะได้ดำเนินการในข้อหาหนักต่อเนื่องต่อไป  จึงขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้ยุติการเข้าร่วมทำกิจกรรมใด ๆ กับแกนนำ กปปส. ทันที  มิฉะนั้น ศรส. จำเป็นต้องดำเนินคดีกับทุกคนที่เข้ามีส่วนร่วมกับแกนนำ กปปส. ไม่ว่าเป็นกรณีใด ๆ เช่น สนับสนุนเงินทุน  อาหาร  ยานพาหนะ  อุปกรณ์  เครื่องไฟฟ้า  การขึ้นเวที  การนำกลุ่มชุมนุม และอื่น ๆ  ซึ่งคดีอันมีโทษฉกรรจ์เช่นนี้มีอายุความยาวนานถึง ๑๐ ปี  ๒. ตามนโยบายของ ศรส. ร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ที่ต้องการแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่อาจติดต่อกับทางราชการได้ เพราะ กปปส. ปิดส่วนราชการนั้น  บัดนี้ ส่วนราชการต่าง ๆ ได้ทยอยเปิดทำการตามปกติให้สามารถกลับมาให้บริการพี่น้องประชาชนได้แล้วจำนวนมาก  ศรส. ขอขอบคุณข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ที่ได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการคุ้มครองดูแลความเรียบร้อยจนสามารถเปิดให้บริการได้  รวมทั้งการเปิดใช้สะพานพระราม ๘ ด้วย  ที่ ศรส. ได้พยายามเจรจาจนเป็นผลให้สามารถเปิดใช้ได้อีกครั้ง  ๓. ผู้อำนวยการ ศรส. ได้ออกหนังสือสำคัญ ๓ ฉบับ ดังนี้

 

 (๑) ฉบับแรก เป็นหนังสือถึงประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อแจ้งข้อมูลการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกลุ่ม กปปส. ที่ได้กระทำการขัดขวางไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม และเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์  

 

 (๒) ฉบับที่สอง เป็นหนังสือถึงปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแจ้งข้อมูลการกระทำผิดของกลุ่มแกนนำ กปปส. และแนวทางการดำเนินการของ ศรส. ที่จะใช้มาตรการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และจะไม่มีการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของผู้ชุมนุมเป็นอันขาดซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะได้แจ้งให้สถานทูตและสถานกงสุลต่าง ๆ ได้ทราบทั่วกัน     

 

 (๓) ฉบับที่สาม เป็นหนังสือถึงองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย เพื่อแจ้งข้อมูลการกระทำผิดของกลุ่มแกนนำ กปปส. และแนวทางการดำเนินการของ ศรส.

 

 (๔.) ศรส. ได้กำชับการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่เข้าขัดขวางการจัดการเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม และการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำผิดขัดขวางการเลือกตั้งด้วยวิธีใด เช่น ปิดล้อม ปิดกั้นการขนบัตรเลือกตั้ง  ปิดล้อมกีดกันไม่ให้ผู้จะใช้สิทธิเลือกตั้งเข้าหน่วยเลือกตั้ง  สั่งปิดการลงคะแนนโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร  และจงใจละทิ้งการทำหน้าที่ ด้วยการลาออกกะทันหัน เป็นต้น  ซึ่งจะต้องมีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกราย เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อการจัดการเลือกตั้งในครั้งต่อไป  

 

(๕.) การดำเนินคดีกับกลุ่มทุนในลักษณะท่อน้ำเลี้ยงนั้น  ศรส.ขอแจ้งเตือนให้ผู้กระทำผิดหรือที่คิดจะกระทำผิดหยุดยั้งทันที  และรายชื่อ ๑๒๐ รายชื่อที่จะออกคำสั่งนั้น ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น ๑๓๖ รายชื่อ  มีที่มาจาก ๓ กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นแกนนำ กปปส. จำนวน ๕๘ คน  รายชื่อตามทางการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ๓๐ คน  และที่เหลือเป็นรายชื่อตามทางการสืบสวนของตำรวจสันติบาลอีก ๔๘ คน  ซึ่ง ศรส. จะออกคำสั่งระงับการทำธุรกรรม  แล้วเรียกเข้าชี้แจง  หากชี้แจงไม่ได้จะนำไปสู่การดำเนินคดีต่อไป   อนึ่ง ศรส. ได้รับแจ้งว่าขณะนี้มีกลุ่มบุคคลออกทำการชักชวนให้พี่น้องในภาคใต้ช่วยกันออกเงินสมทบการชุมนุมของ กปปส. บางรายถึงกับทำเป็นหนังสือ เช่น กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้บริหารครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดภูเก็ต  ที่ทำหนังสือเชิงบังคับให้ครูตามโรงเรียนต่าง ๆ ร่วมกันให้เงินสนับสนุน กปปส. เป็นต้น  ซึ่ง ศรส.จะตรวจสอบแล้วดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น  จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน

Lasted Post

Related Post