สรุปผลการประชุม ศรส. เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗

published: 13/3/2557 13:36:13 updated: 13/3/2557 13:36:13 1218 views   TH
 
สรุปผลการประชุม ศรส. เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม  ๒๕๕๗ 
 
 
ศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้  
 
๑.ศรส.ได้รับรายงานว่า มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.กลาง ทั้ง ๕ คน  ในความผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายอาญาจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยในต่างจังหวัดนั้น มี ๒ จังหวัด คือ จังหวัดสตูลและจังหวัดพัทลุง ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการแจ้งความร้องทุกข์ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล รวม ๖ สถานี  คือ สถานีตำรวจนครบาลสามเสน บางพลัด ทุ่งสองห้อง บางซื่อ ดอนเมือง และธรรมศาลา โดยเป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.กลาง ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดการขัดขวางการเลือกตั้ง และไม่ดำเนินการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งมีพฤติการณ์ที่สำคัญ อาทิเช่น   
 
๑) ไม่จัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย   
 
๒) ปล่อยให้มีการกระทำต่าง ๆ อันเป็นความผิดต่อกฎหมายเลือกตั้ง   
 
๓) ไม่จัดให้มีการรับสมัครใน ๒๘ เขตที่ยังสมัครไม่ได้   
 
๔) ไม่มีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ ปฏิบัติการทั้งหลายอันจำเป็นในการเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยเรียบร้อย   
 
๕) ไม่ประกาศผลการเลือกตั้ง   
 
๖) มีเจตนาขัดขวางเพื่อไม่ให้ได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ศรส. จะติดตามและกำชับการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปโดยเคร่งครัด และป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำอีกในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้  
 
 
๒.ศรส.ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ณ วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๗ คือวันนี้ว่า คดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งอันเกิดจากการกระทำของแกนนำ กปปส. กับพวก เมื่อครั้งการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีดังนี้   
 
๑) คดี กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น ๑๙๔ คดี  แยกเป็นคดีเกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๕๑ คดี  และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด จำนวน ๑๔๓ คดี     
 
๒) คดีที่เจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น ๑๗๗ คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๖๖ คดี  และคดีที่เกิดในต่างจังหวัดจำนวน ๑๑๑ คดี   รวมคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งทั้งสิ้น ๓๗๑ คดี โดยศาลได้ออกหมายจับให้ รวมทั้งสิ้น ๑๙๒ คน ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว ๑๑๕ คน  ทั้งนี้เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้ง ไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง ๑,๕๕๒ คน อนึ่ง ศรส.ขอย้ำเตือนว่า โทษที่เกี่ยวข้องกับการขัดขวางการเลือกตั้ง เป็นความผิดอุกฉกรรจ์ที่มีทั้งโทษจำคุกและปรับ รวมถึงการตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา ๕ ปี ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ซึ่ง ศรส.จะติดตามและกำชับการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. ที่ขัดขวางการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด เพื่อนำผู้กระทำผิด  มาลงโทษ และป้องปรามไม่ให้มีการกระทำผิดซ้ำอีกในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้   
 
 
๓.จากกรณีที่ญาติผู้ตายจากเหตุการณ์บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ได้ฟ้องนายกรัฐมนตรี กับพวก รวม ๖ คน ต่อศาลอาญานั้น  ศรส.ขอยืนยันว่า การปฏิบัติการของ ศรส. บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ไม่ใช่การสลายการชุมนุม หรือการกระชับพื้นที่  หรือการขอคืนพื้นที่  แต่เป็นการปฏิบัติการเพื่อเข้าตรวจค้น ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดตามหมายจับของศาล และยังเป็นการเปิดสถานที่ราชการหรือถนนสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม ซึ่งได้ปฏิบัติไปตามกรอบของกฎหมายและความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ โดยมียุทธวิธีที่เหมาะสมต่างกันไป ประการสำคัญเป็นการปฏิบัติการโดยเปิดเผย มีการให้สื่อมวลชนเข้าร่วมทำข่าว มีส่วนร่วมและช่วยตรวจสอบด้วย และเมื่อเข้าปฏิบัติการแล้วก็ได้ตรวจยึดอาวุธ ยาเสพติด  และสิ่งของผิดกฎหมายต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ใช้ทำวัตถุระเบิด  ส่วนผู้กระทำผิดได้หลบหนีไป  ดังนั้น เมื่อปฏิบัติการเสร็จสิ้น จึงให้กำลังตำรวจกลับสู่ที่ตั้ง โดยไม่จำเป็นต้องคงกำลังตำรวจไว้ในพื้นที่ เพราะไม่ใช่การขอคืนพื้นที่ แต่เป็นการปฏิบัติการเพื่อคืนความสงบสุขให้กับสังคมโดยรวม อย่างไรก็ตาม การฟ้องคดีของผู้เสียหายดังกล่าวเป็นสิทธิที่พึงกระทำได้ตามกฎหมาย  และ ศรส.ก็พร้อมที่จะชี้แจงต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม โดยจะได้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการแก้ต่างคดีโดยเร็วต่อไป  
 
 
จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน      
__________________

Lasted Post

Related Post