สรุปผลการประชุม ศอ.รส. เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗

published: 31/3/2557 16:15:22 updated: 31/3/2557 16:15:22 1305 views   TH
 

สรุปผลการประชุม ศอ.รส. เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗

 

 

ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้

 

เรื่องที่ ๑ ตามที่ ศอ.รส. ได้แนะนำให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษขยายระยะเวลาให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส. รวม ๕๘ ราย ที่ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันเป็นกบฏ ร่วมกันยุยงให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และความผิดฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการขัดขวางการเลือกตั้งและการบุกรุกสถานที่ราชการ ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและให้การต่อสู้คดีตามหมายเรียกภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเป็นการให้โอกาสผู้ต้องหาในอันที่จะแก้ข้อหา และที่จะแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่ตนได้นั้น บัดนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รับการติดต่อจากผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก ๕ ราย ได้แก่ ๑) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ๒) นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ๓) นางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ ๔) นายทศพล เพ็งส้ม และ ๕) นายชาญวิทย์ วิภูศิริ โดยจะเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและให้การต่อสู้คดี ในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๗ ทั้งนี้ ศอ.รส. ขอแจ้งไปยังผู้ต้องหาที่เหลือให้มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งรวมถึงนายถวิล เปลี่ยนศรีด้วย ทั้งนี้เพื่อพนักงานสอบสวนจะได้ทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว มิฉะนั้นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีความจำเป็นต้องดำเนินการส่งสำนวนการสอบสวนให้กับพนักงานอัยการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป สำหรับผู้ต้องหาที่ต้องการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ขอให้ติดต่อพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ เลขานุการคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๑-๖๒๓-๘๔๑๐

 

เรื่องที่ ๒ ศอ.รส. ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗ คือวันนี้ว่า คดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งอันเกิดจากการกระทำของแกนนำ กปปส. กับพวก เมื่อครั้งการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีดังนี้  

๑) คดี กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น ๑๙๑ คดี  แยกเป็นคดีเกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๕๑ คดี  และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด จำนวน ๑๔๐ คดี    

๒) คดีที่เจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น ๑๘๐ คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๖๖ คดี  และคดีที่เกิดในต่างจังหวัดจำนวน ๑๑๔ คดี รวมคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งทั้งสิ้น ๓๗๑ คดี  โดยศาลได้ออกหมายจับให้ รวมทั้งสิ้น ๒๐๒ หมาย  ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว ๒๓๑ คน  ทั้งนี้เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้ง ไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง ๑,๗๑๓ คน ศอ.รส. ขอเรียนว่า การขัดขวางการเลือกตั้งเป็นความผิดอุกฉกรรจ์ที่มีทั้งโทษจำคุกและปรับ รวมถึงการตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา ๕ ปี  ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ศอ.รส.จะติดตามและกำชับการดำเนินคดีอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปโดยเคร่งครัด และป้องปรามมิให้เกิดการกระทำผิดซ้ำอีกในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้  อนึ่ง จากการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคมที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์อย่างไม่เป็นทางการอยู่ที่ประมาณ ๑๘.๗ ล้านคน เปรียบเทียบกับจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ มีจำนวนประมาณ ๒๐.๕ ล้านคน

 

 

จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน

______________________

Lasted Post

Related Post