DSI ควบคุมตัวนายทุนครอบครองพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดเพชรบูรณ์ เนื้อที่ 353 ไร่ความเสียหายกว่า 22 ล้านบาท ส่งพนักงานอัยการ

              เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 4 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวภายใต้การอำนวยการของนายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้ติดตามจับกุมตัวนายเสถียร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2200/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ายึดถือครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ จำแนกเป็นพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้น 3 เนื้อที่ 353-0-40 ไร่ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ได้ที่บริเวณตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เขตพื้นที่ 6 ดำเนินการตามกฎหมาย

             กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 6 ได้ทำการ สืบสวนสอบสวนกรณีพบนายทุนนอกพื้นที่มีพฤติการณ์เป็นนายทุนเข้ามายึดถือครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ จำแนกเป็นพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำ ชั้น 3 เป็นคดีพิเศษที่ 107/2563 ทางการสอบสวนพบว่านายเสถียร (สงวนนามสกุล) เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดโดยพบการยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภูท้องที่บ้านมุกโต หมู่ 3ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เนื้อที่ 353-0-40 ไร่ มูลค่าความเสียหายคิดเป็น 22,964,980 บาท จึงขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับไว้ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2200/2566 ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2566โดยผู้ต้องหาหลบหนี่จึงขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับและประกาศสืบจับไว้ ต่อมาคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนเสร็จสิ้น ทางคดีมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายเสถียรฯ และได้เสนอความเห็นพร้อมสำนวนคดีพิเศษไปยังพนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อมา ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สืบสวนทราบที่อยู่ของนายเสถียรฯ และในวันที่ 14 มกราคม 2567 จึงร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวนคดีศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 6 ดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามกฎหมาย ต่อมา วันนี้ จึงได้ควบคุมนายเสถียรฯ ส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

             " ภัยจากอาชญากรรมพิเศษมีผลกระทบร้ายแรงต่อสังคม ดังนั้น ในการปฏิบัติงานด้านคดีพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้มีการบูรณาการการปฏิบัติงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในการร่วมกันกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสาธารณชน" พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าว