DSI บุกค้น 6 จุด เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีพิเศษที่ 153/2562 (FOREX 3D)

published: 11/23/2019 12:37:05 PM updated: 11/25/2019 11:18:31 AM 13446 views   TH
 

DSI บุกค้น 6 จุด เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
ในคดีพิเศษที่ 153/2562 (FOREX 3D)

                   

ในวันนี้ (วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562) พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 153/2562 (กรณีประชาชนถูกหลอกให้ลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FOREX 3D) นำกำลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นสถานที่ที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีพิเศษดังกล่าว ตามหมายค้นของศาลอาญาที่ 434 – 439/2562 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 เพื่อตรวจค้นและยึดสิ่งของ ซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวนในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายต่อไป จำนวนรวม 6 จุด ดังนี้

จุดตรวจค้นที่ 1 เป็นอาคารรอย์ช ไพรเวท เรสซิเดนซ์ส ห้องชุดเลขที่ 61/125 ชั้น 38 อาคารเอ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 (สวัสดี) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร จากการตรวจค้นพบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทางคดี ตรวจยึดเครื่องประดับมีค่า นาฬิกาหรู อายัดรถยนต์ จำนวน 1 คัน 

จุดตรวจค้นที่ 2 เป็นอาคารรอย์ช ไพรเวท เรสซิเดนซ์ส ห้องชุดเลขที่ 61/155 ชั้น 20 อาคารบี ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 (สวัสดี) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร จากการตรวจค้นพบว่าเป็นห้องสูทเช่า การตรวจค้นไม่มีสิ่งของที่ตรวจยึดที่มีราคา ภายในห้องส่วนใหญ่เป็นของเฟอร์นิเจอร์ทั่ว ๆ ไป

จุดตรวจค้นที่ 3 บริษัท มี ดี เพย์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 168/58 ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จากการตรวจค้น พบว่าเป็นสำนักงานที่มีเฟอร์นิเจอร์แต่ไม่มีการใช้งาน สอบถามผู้ให้เช่าสถานที่แล้วพบว่า หลังจากทำการเช่าไม่มีพนักงานของบริษัทฯ มาทำงาน แสดงให้เห็นว่าเป็นบริษัทที่ตั้งมาหลอกลวงผู้ลงทุนโดยไม่มีการดำเนินกิจการจริง

จุดตรวจค้นที่ 4 โครงการ Life@Ratchada Huaykwang ชั้น 5 ห้องเลขที่ 189/24 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร จากการตรวจค้น มีลักษณะเป็นห้องชุด ขนาด 41 ตารางเมตร สภาพห้องอยู่ระหว่างการรีโนเวท ตกแต่งภายใน เบื้องต้นได้ตรวจยึดอายัดรถยนต์ Honda  civic หมายเลขทะเบียน 6 กฐ 8626 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีชื่อเจ้าของห้องชุดเลขที่ดังกล่าวเป็นผู้ครอบครอง 

จุดตรวจค้นที่ 5 บ้านเลขที่ 1 ถนนสตรีวิทยา 2 ซอยสตรีวิทยา 12 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร จากการตรวจค้น ได้ยึดเอกสารและคอมพิวเตอร์ รวมทั้งรถยนต์จำนวน 1 คัน

จุดตรวจค้นที่ 6 บริษัท อาร์ เอ็ม เอส แฟมิเลี่ย จำกัด อยู่ภายในบริเวณพื้นที่สำนักงานให้เช่าของ บริษัท รีจัส รัชดา เซ็นเตอร์ จำกัด ชั้น 20 ตั้งอยู่เลขที่ 89 ตึกเอไอเอ แคปปิตอล ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร จากการตรวจค้น เบื้องต้นมีสภาพเป็นสำนักงานให้เช่าในชั้น 20 ของตึกเอไอเอ โดยมีพื้นที่ในการเช่ากินพื้นที่ 1 ใน 3 ของชั้น 20 เนื่องจากตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า​ได้เช่าพื้นที่ขยายมากกว่าการสืบสวน ผลการตรวจค้นได้ทำการยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวนประมาณ 20 ตัว ฮาร์ดดิสจากเครื่องถ่ายเอกสาร จำนวน ​1​ ชุด​ และทรัพย์สินที่มีค่าจำนวนหนึ่ง​ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ​(ปปง.) ร้องขอให้ยึดไว้ เช่น​ โทรทัศน์ขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว​ จอคอมพิวเตอร์ราคาสูง จำนวน 14 ตัว 

นอกจากนี้ ยังได้อายัดที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 5 แปลง มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท และอายัดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 1 แปลง มูลค่าประมาณ 76 ล้านบาท ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และอยู่ระหว่างตรวจสอบบ้านพัก ห้องชุด ที่ดิน และรถยนต์ เพื่อขยายผลในทางคดีต่อไป

การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น เป็นการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการปฏิรูปการทำงานระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน และเป็นการบูรณาการทรัพยากรในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมสำคัญ เป็นไปตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ ผู้เสียหายทุกท่านสามารถลงทะเบียนข้อมูลผ่านระบบคิวอาร์โค้ดที่หน้าเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อจะได้มีข้อมูลสอบทานจำนวนผู้เสียหายและความเสียหาย และกรมสอบสวนคดีพิเศษขอย้ำเตือนไปยังผู้เสียหายและพยาน ขอให้ร่วมมือให้ข้อเท็จจริงแก่เจ้าหน้าที่เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างเป็นธรรม โดยเฉพาะผู้เสียหาย ขอให้ดำเนินการตามคำแนะนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ขอให้มาแจ้งความร้องทุกข์โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ได้รับการเฉลี่ยทรัพย์ อีกทั้งการดำเนินคดีอาญาภายหลังจากที่มีการสอบสวนคดีนี้เสร็จสิ้นไปแล้วอาจมีปัญหาในข้อกฎหมาย ทั้งนี้ หากท่านมีเบาะแสในเรื่องดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือโทรสายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะรักษาข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ

 

******************************************

 

Documents related