DSI ลงพื้นที่ร่วมบูรณาการร่วม 5 หน่วยงาน สืบสวนข้อเท็จจริงการทุจริต ของอดีตคณะกรรมการชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางบึงกาฬ จำกัด
published: 1/9/2565 14:36:18 updated: 1/9/2565 14:36:18 1346 views THตามที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบนโยบายการบังคับใช้กฎหมาย โดยมุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง และความสงบสุขต่อสังคมโดยรวม อีกทั้งเพื่ออำนวยความยุติธรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว และเป็นธรรม เพื่อเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย และสามารถแก้ไขปัญหาสหกรณ์ อย่างได้ผล ทั้งยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อสมาชิกสหกรณ์
ทั้งนี้ นางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานกรรมการแก้ไขปัญหาสหกรณ์ และคณะกรรมการ ประกอบด้วย เลขาธิการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร และอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ให้มีหน้าที่ในการติดตาม ตรวจสอบ กรณี การทุจริตของสหกรณ์ฯ ทั่วประเทศ โดยใช้มาตรการป้องกันและปราบปราม ได้มอบหมายให้คณะทำงานคณะที่ 1 ลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 28 - 30 สิงหาคม 2565 ร่วมบูรณาการเข้าทำการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จและติดตามผลการดำเนินการ กรณี อดีตคณะกรรมการชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางบึงกาฬ จำกัด ได้นำเงินของชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางบึงกาฬ จำกัด ที่ได้จากการกู้ยืมเงินจากธนาคารออมสิน สาขาบึงกาฬ ไปโดยทุจริต จำนวน 10 ล้านบาท เป็นเหตุให้สหกรณ์ฯ ได้รับความเสียหายและทำให้สหกรณ์ฯ ถูกฟ้องร้องบังคับคดี จากการกระทำการทุจริตดังกล่าว และยังทำให้สมาชิกสหกรณ์ได้รับความเดือดร้อนในการไม่ได้รับเงินค่าหุ้นคืน
ในการนี้ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการทุจริต ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา นำโดย นายธวัชชัย รัตนปรีชาชัย รองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และคณะ ร่วมลงพื้นที่บูรณาการกับ 5 หน่วยงาน เนื่องจากการทุจริตข้างต้น ได้ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเป็นวงกว้างและส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยต่อสังคม ตลอดจนความเชื่อมั่นต่อการดำเนินการของสหกรณ์ อีกทั้งการกระทำความผิดต่อสหกรณ์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายแห่งหลายพื้นที่จำนวมมาก กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงจำเป็นที่ต้องให้เกิดผลในทางปฏิบัติและดำเนินคดีแก่บุคคลที่กระทำการความผิดในทุกมิติ เพื่อเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย และสามารถแก้ไขปัญหาสหกรณ์อย่างได้ผล ทั้งยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อสมาชิกสหกรณ์ เพื่อคืนสภาพความเสียหายคืนแก่สหกรณ์ฯ อย่างยั่งยืน ต่อไป