DSI ชี้แจง กรณีทรัพย์สินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด เป็นปัญหาด้านข้อกฎหมาย ต้องรอบคอบ เร่งหาทางออกร่วมกัน
published: 10/7/2561 15:48:22 updated: 10/7/2561 15:48:22 3797 views THDSI ชี้แจง กรณีทรัพย์สินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด
เป็นปัญหาด้านข้อกฎหมาย ต้องรอบคอบ เร่งหาทางออกร่วมกัน
ด้วยวันนี้ (วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2561) ปรากฏข่าวประเด็นจะมีการประชุมคณะกรรมการดำเนินการผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และที่ประชุมอาจมีการหารือและขอมติเพื่อยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีที่ไม่ปลดการยึดอายัดทรัพย์สินของอดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่ทำผิดและกำลังได้รับโทษตามกฎหมาย หลังจากส่งหนังสือขอให้พิจารณามาตลอด แต่ไม่มีผลการดำเนินการ ทำให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนคลองจั่นประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน โดยหากคณะกรรมการดำเนินการมีมติเห็นชอบ ประธานคณะกรรมการดำเนินการก็จะมีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งจะเข้าหารือกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วย นั้น
กรมสอบสวนคดีพิเศษขอชี้แจงว่า กรณีตามข่าว สืบเนื่องจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ได้ทุจริตนำเงินออกจากสหกรณ์ไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และเงินส่วนหนึ่งจำนวน 3,800 ล้านบาทเศษ ได้นำไปซื้อทรัพย์สิน จำนวน 299 รายการ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน และมีการอายัดทรัพย์ดังกล่าวไว้ เนื่องจากเป็น “ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด” ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 5 (1) และเป็นของกลางในคดีพิเศษที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่ ซึ่งโดยปกติจะต้องยึดไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดเพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทรัพย์สินเดียวกันนี้ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ได้ยื่นฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก รวม 18 คน เป็นคดีแพ่งและศาลได้มีคำพิพากษาให้สหกรณ์ชนะคดีและออกหมายบังคับคดีแล้ว จึงเป็นเรื่องการทับซ้อนของกฎหมายต่อทรัพย์สินเดียวกัน ทั้งทางแพ่งและอาญาที่มีผู้ต้องหาหรือผู้ถูกฟ้องกลุ่มเดียวกันจากมูลแห่งเรื่องเดียวกัน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จึงประชาสัมพันธ์มาเพื่อทราบ
คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ
10 กรกฎาคม 2561