DSI ร่วมหลายหน่วยงาน ประชุมและตรวจสอบพื้นที่ กรณีปัญหาการบุกรุก ยึดถือ ครอบครองที่ราชพัสดุ จังหวัดกาญจนบุรี
published: 16/8/2560 13:38:50 updated: 16/8/2560 13:38:50 2831 views TH
DSI ร่วมหลายหน่วยงาน ประชุมและตรวจสอบพื้นที่
กรณีปัญหาการบุกรุก ยึดถือ ครอบครองที่ราชพัสดุ จังหวัดกาญจนบุรี
ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายในการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ และใช้มาตรกรทางกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้กำชับให้กรมสอบสวนคดีพิเศษปฏิบัติงานตามนโยบายและข้อสั่งการของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด และดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามการบุกรุกที่ดินของรัฐ โดยให้เร่งดำเนินการป้องกันและปราบปรามอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนและต่อเนื่อง นั้น
กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามขบวนการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่องโดยกรณีกลุ่มนายทุนร่วมกับบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน ครอบครองที่ดินราชพัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อประกอบกิจการในทางเกษตรกรรมอันเป็นธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการตามบัญชี 1 ของพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า มีกลุ่มนายทุนร่วมกับบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีนเข้ามาซื้อที่ดินซึ่งเป็นที่ดินราชพัสดุ ในพื้นที่ หมู่ที่ 12 ตำบลจรเข้เผือก อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 2 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 1,200 ไร่ โดยมีการเข้าไปปลูกพืชผลทางการเกษตร และมีการปักเสาปูนล้อมรั้วลวดหนามกั้นเป็นแนวไว้มีลักษณะหวงกันเด็ดขาด ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุที่ใช้เพื่อประโยชน์ทางทหาร มีกองพลทหารราบที่ 9 เป็นผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นกรณีที่คนต่างด้าวเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่มีสิทธิและไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากผู้กระทำผิดเป็นคนต่างชาติและพื้นที่เกิดเหตุอยู่ใกล้ชายแดนประเทศเมียนมา ซึ่งกรมสอบสวนได้รับดำเนินการเป็นคดีพิเศษเรียบร้อยแล้ว
ล่าสุด ในวันนี้ (วันพุธที่ 16 สิงหาคม 2560) พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าประชุมหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กองพลทหารราบที่ 9 ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอด่านมะขามเตี้ย องค์การบริหารส่วนตำบลจรเข้เผือก โครงการชลประทานกาญจนบุรี และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมพิจารณาปัญหา การบุกรุกยึดถือครอบครองที่ราชพัสดุ และร่วมกันแสดงความคิดเห็นแนวทางแก้ไขปัญหาและวางแผนป้องกันการบุกรุกในระยะยาว พร้อมลงตรวจสอบพื้นที่เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเนื่องจากเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ วิถีชีวิตชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม มีดังนี้
1. พื้นที่เกิดเหตุมีอาณาเขตติดกับชายแดนประเทศเมียนมา อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกองพลทหารราบที่ 9 ใช้ประโยชน์และมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทหารและเป็นพื้นที่ฝึกทางยุทธวิธีของกองทัพภาคที่ 1 จึงมีความสุ่มเสี่ยงต่อความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ
2. มีการขุดสระเพื่อกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ติดกับอ่างเก็บน้ำของกรมชลประทาน พร้อมสร้างกำแพงคอนกรีตปิดกั้นทางน้ำ และขุดบ่อดินขนาดใหญ่อีกสองแห่งเพื่อกักเก็บน้ำที่ไหลออกมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยลำทรายตอนบน ส่งผลให้ชาวบ้านหมู่ที่ 10 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำสำหรับใช้เพื่อการเกษตร ประมาณ 80 ครัวเรือน
3. ลักษณะการประกอบการเกษตรกรรมของนายทุนต่างชาติ มีการใช้สารเคมีอย่างรุนแรงเพื่อให้ได้ผลิตผลจำนวนมาก และอาจไหลซึมลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของราษฎรในพื้นที่ ประกอบกับผลผลิตที่ได้จะนำไปจำหน่ายยังโรงงานละแวกใกล้เคียงและส่งออกไปยังประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ เป็นการตักตวงผลประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศและมาแข่งขันการทำเกษตรกรเข้าลักษณะข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542
การดำเนินคดีกับผู้บุกรุกป่าและที่ดินของรัฐทุกประเภทถือเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือเป็นภารกิจสำคัญที่จะต้องทวงคืนผืนแผ่นดินดังกล่าวกลับคืนมาเป็นของรัฐและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาดต่อไป
****************************************************************