DSI จับกุมผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชน กรณี บริษัทเวิลด์ ฟรีดอม ซัคเซซ จำกัด
published: 8/22/2018 7:56:03 PM updated: 8/22/2018 7:56:03 PM 2014 views THDSI จับกุมผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชน กรณี บริษัทเวิลด์ ฟรีดอม ซัคเซซ จำกัด
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้
ดำเนินการสอบสวนคดีพิเศษที่ 213/2555 กรณี บริษัทเวิลด์ ฟรีดอม ซัคเซซ จำกัด ซึ่งมีชื่อ นายพิตรพิบูล พิบูลมงคลสกุล หรือนายเริงชัย สุ่มมาตย์ เป็นเจ้าของ ประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่ องสำอาง เครื่องบริโภค เพื่อสุขภาพ และได้แจ้งวัตถุประสงค์ว่าทำธุ รกิจขายตรง แต่ดำเนินกิจการไม่เป็ นไปตามแผนที่ยื่นไว้กับสำนั กงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริ โภค โดยได้ร่วมกันกระทำการฉ้ อโกงประชาชนในหลายรูปแบบต่อเนื่ อง มีการหลอกลวงประชาชนให้เข้าร่ วมลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์และสินค้า เช่น สบู่ น้ำผลไม้ และซิมโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น รวมทั้งมีพฤติการณ์หลอกลวงผู้ เสียหายและผู้บริโภคในการระดมทุ นเพื่อขายสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่เป็ นไปตามที่กฎหมายกำหนด อันอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และขายสินค้าที่แพงกว่าท้องตลาด โดยได้โฆษณาเชิญชวนผ่านทางเว็ บไซต์, การจัดอบรมสั มมนาแนะนำแผนการตลาดและสินค้ าตามสถานที่ต่าง ๆ, การบรรยายเชิญชวนโดยวิทยากร, การออกรายการโทรทัศน์และเผยแพร่ ในนิตยสาร รวมทั้งนำเสนอแผนการลงทุนผ่ านระบบแม่ข่าย/แม่ทีมและสมาชิก โดยไม่ได้มุ่งเน้นเรื่ องการขายสินค้า แต่เน้นระดมทุนจากสมาชิก โดยใช้ธุรกิจขายตรงบังหน้ าและดำเนินกิ จกรรมหลอกลวงประชาชนหลายกรณี ทั้งหลอกลวงให้ร่วมลงทุนกับบริ ษัท โดยไม่ต้องไปขายสินค้าก็ได้รั บผลตอบแทนเป็นเงินปันผล และให้ไปหาสมาชิกใหม่มาร่วมลงทุ น ซึ่งในระยะแรกจะได้รับเงินปั นผลตามที่ได้ตกลงไว้ แต่ต่อมาจะหยุดโอนเงินให้กับผู้ เสียหาย โดยมีผู้เสียหายเกือบ 100 ราย จากหลายจังหวัด อาทิ กรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดนครปฐม เข้าร้องทุกข์กับกรมสอบสวนคดีพิ เศษรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนิ
นการส่งสำนวนคดีดังกล่าวให้อั ยการคดีพิเศษเรียบร้อยแล้ว และล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 21 สิงหาคม 2561 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้จับกุมตั วนายพิตรพิบูล พิบูลมงคลสกุล หรือนายเริงชัย สุ่มมาตย์ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจั บของศาลอาญาที่ จ.880/2556 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2556 ได้ที่ตำบลท่าม่วง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด หลังผู้ต้องหาได้หลบหนีไปหลั งจากหลอกลวงผู้เสียหาย โดยกล่าวหาว่า กระทำความผิด ฐานฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญา, ฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้ อโกงประชาชน ตามมาตรา 4 และมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่ เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527, ฐานผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายซึ่งอาหารปลอม ตามมาตรา 25 (2) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 และฐานโฆษณาข้อความที่เป็นเท็ จหรือเกินความจริง ตามมาตรา 22 (1) และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในคุ ณภาพของสินค้า ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ บริโภค พ.ศ. 2522 โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะนำตัวผู้ ต้องหาไปฝากขังต่อศาลอาญาต่อไป