ตั้งกรรมการตรวจสอบ หาตัวผู้แอบอ้าง และพฤติการณ์ จ่อเอาผิดผู้ทำให้ DSI เสื่อมเสียอย่างเด็ดขาด

ตั้งกรรมการตรวจสอบ หาตัวผู้แอบอ้าง และพฤติการณ์ จ่อเอาผิดผู้ทำให้ DSI เสื่อมเสียอย่างเด็ดขาด

         จากกรณี เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ ขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูง บนทางพิเศษเฉลิมมหานครแล้วพุ่งชนรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 8 ราย และต่อมามีกระแสข่าวออกมาว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าไปช่วยเหลือทางคดีให้กับเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ นั้น 
     ในการนี้ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่าตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ส่วนการแอบอ้างยศ และตำแหน่งของตนในคืนวันเกิดเหตุว่า เคยเป็นอดีตตำรวจ หรือยังดำรงตำแหน่งระดับผู้บังคับบัญชา ทั้งยังเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นั้น ขอชี้แจงว่า ตนไม่ได้มาจากสายงานตำรวจ แต่ตนจบมาทางด้านสายแพทย์ หากเรื่องดังกล่าวถูกตรวจสอบและสรุปว่าเป็นตนที่เข้าไปติดต่อขอช่วยเหลือทางด้านคดีให้กับคนขับขี่รถยนต์เบนท์ลีย์จริง ตนก็พร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่งทันที หรือหากพบว่ามีผู้ใต้บังคับบัญชาของดีเอสไอเป็นผู้แอบอ้างจะต้องถูกดำเนินการทางวินัย ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 คู่ขนานไปกับการดำเนินคดีทางอาญาอย่างแน่นอน โดยในเบื้องต้นได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ทำการนัดหมายสอบปากคำบุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว
      “ผมพร้อมทำให้ดีเอสไอยุคนี้ มีความโปร่งใส และอำนวยความยุติธรรมให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติให้มากที่สุด” อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงขอประชาสัมพันธ์ หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแส
การกระทำความผิด หรือการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ สามารถแจ้งมายังกองบริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือทางสายด่วน DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ