ดีเอสไอ สนธิกำลังร่วมสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เข้าตรวจค้นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษากฎหมายที่มีพฤติกรรมอำพรางในการถือครองหุ้นแทนชาวต่างชาติ ในพื้นที่ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพมหานคร
published: 8/15/2018 4:48:33 PM updated: 8/15/2018 4:48:33 PM 3673 views TH
ดีเอสไอ สนธิกำลังร่วมสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เข้าตรวจค้นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษากฎหมายที่มีพฤติกรรมอำพรางในการถือครองหุ้นแทนชาวต่างชาติ ในพื้นที่ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพมหานคร
ตามที่ รัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเร่งปราบปรามกลุ่มนายทุนต่างชาติที่จัดตั้งบริษัทโดยวิธีการปกปิดอำพรางวิธีการลงทุนอันเป็นทุนจดทะเบียน และกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยอำพรางว่าเป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ นั้น
ในวันนี้ (วันพุธที่ 15 สิงหาคม 2561) พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 7/2561 สนธิกำลังร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เข้าดำเนินการตรวจค้นสถานที่เป้าหมายจำนวน 4 แห่ง ตามอนุมัติของศาลอาญา โดยแบ่งกำลังเป็น 4 ชุดปฏิบัติการเพื่อเข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย ดังนี้
1. ชุดปฏิบัติการที่ 1 นำโดย นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ เข้าตรวจค้นสำนักงาน เลขที่ 393/4-5 หมู่ 1 ซอยบางเทา 1 ถนนศรีสุนทร ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสำนักงานสาขาจังหวัดภูเก็ต และสถานที่ทำงานของกลุ่มพนักงานคนไทยผู้รับถือหุ้นแทนชาวต่างชาติและทำเอกสารเท็จเพื่ออำพรางการเป็นนอมินี
2. ชุดปฏิบัติการที่ 2 นำโดย นายวรพจน์ ไม้หอม พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ เข้าตรวจค้นสำนักงานเลขที่ 123/9 หมู่ 5 ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็น สำนักงานจัดทำบัญชีให้กับกลุ่มบริษัทลูกค้าชาวต่างชาติ
3. ชุดปฏิบัติการที่ 3 นำโดย นายจักรภพ กลิ่นหอม พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ เข้าตรวจค้นสำนักงานเลขที่ 17/10 หมู่ 1 ถนนทวีราษฎร์ภักดี ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสำนักงานสาขาสมุย และสถานที่ทำงานของกลุ่มพนักงานคนไทยที่เป็นผู้ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติและจัดทำเอกสารเท็จเพื่ออำพรางการเป็นนอมินี
4. ชุดปฏิบัติการที่ 4 นำโดย นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ รองผู้บัญชาการกองคดีความมั่นคง เข้าตรวจค้นอาคารรัจนาการ เลขที่ 3 ชั้น AA ถนนสาทร แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร เป็นสำนักงานใหญ่ ที่ทำการของกลุ่มชาวต่างชาติในชั้นผู้สั่งการ
ผลการตรวจค้น พบสำเนาเอกสาร, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์, ข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะดำเนินการเก็บเป็นพยานหลักฐานในการดำเนินการทางคดีต่อไป
ผลการตรวจค้นเพิ่มเติม ยังพบข้อมูลว่า กลุ่มชาวต่างชาติได้ทำการกว้านซื้อขายที่ดินกว่า 80 แปลงกระจายในพื้นที่ ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้านพักตากอากาศ และบ้านเดี่ยว
นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังเปิดเผยข้อมูลอีกว่า มีการประกอบธุรกิจการค้าที่ดินอำพรางให้กับชาวต่างชาติจำนวนมาก ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างในจังหวัดท่องเที่ยว อาทิ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี
อนึ่ง จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มบริษัทที่ปรึกษากฎหมายดังกล่าวจัดให้พนักงานของบริษัท ซึ่งเป็นคนไทยเป็นตัวแทนอำพรางก่อตั้งบริษัท แล้วนำบริษัทดังกล่าวเข้าไปถือครองหุ้นในบริษัทอื่น ๆ
เพื่อประกอบธุรกิจการค้าที่ดินให้กับชาวต่างชาติ โดยพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งการถือครองที่ดินในลักษณะนอมินีดังกล่าวมีผลกระทบต่อความมั่นคง และภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงส่งผลต่อการเข้าถึงที่ดินของคนไทยโดยตรง ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ปราบปรามอย่างต่อเนื่องจริงจัง
**********************************************
**********************************************