ENศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ DSI เปิดยุทธการค้นบ้านนายจ้างโหด... เพื่อช่วยเหลือแรงงาน
published: 9/23/2015 11:27:19 AM updated: 9/23/2015 11:27:19 AM 3427 views
TH
จากกรณีสถานทูตลาวประจำประเทศไทย และมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ร้องขอมากรณี น.ส.ลา หรือพิมพา วาสนา มาขอความช่วยเหลือน้องสาวของตนชื่อ น.ส.พิม วาสนา อายุ ๑๗ ปี ซึ่งเป็นเด็กชาวลาว ได้ถูกนายจ้างบังคับกักขังให้ทำงานหนัก โดยไม่ได้รับเงินค่าตอบแทนมาเป็นเวลากว่า ๕ ปี รวมทั้งถูกทำร้ายร่างกายอีกด้วย
ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ และพ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม ๑ และเจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันและปราบปราม ๑ ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า นายจ้างของ น.ส.พิม ชื่อ นางไพรินทร์ หรือ แหม่ม รอดดอน อยู่บ้านเลขที่ ๗๑/๖๒/๑ หมู่ที่ ๑ แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. จึงได้ประสานกับ กองบังคับการตำรวจนครบาล ๗ และ สน.ตลิ่งชัน เพื่อร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีมูลน่าเชื่อว่า น.ส.พิม น่าจะเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ศคม. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงประชุมวางแผนในการปฏิบัติการช่วยเหลือพร้อมทั้ง ได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดตลิ่งชัน เพื่อตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว และช่วยเหลือบุคคลตามที่ร้องขอ โดยศาลจังหวัดตลิ่งชัน ได้อนุมัติหมายค้น ที่ ค ๘๘/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๘
การปฏิบัติภารกิจของศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ DSI ในการช่วยเหลือแรงงานเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๘ โดยร่วมกับกองบังคับการตำรวจนครบาล ๗ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชันเจ้าหน้าที่ทหารจากชุดประสานงานพื้นที่ ๑ (เขตบางพลัด และเขตตลิ่งชัน) สังกัด ร.๙ พัน ๓ กองพลทหารราบที่ ๙ ผู้แทนสถานทูตลาวประจำประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลการตรวจค้นและช่วยเหลือบุคคลที่ร้องขอ ปรากฏผลดังนี้
บ้านที่ทำการตรวจค้นอยู่ในหมู่บ้านฮันนี่วิลล่า ถนนพุทธมณฑลสาย ๑ ซอย ๒๙ ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ๒ ชั้น ปลูกอยู่รวมกัน ๓ หลัง มีรั้วล้อมรอบ มีกล้องวงจรปิดทั่วบริเวณ เป็นบ้านที่มีสภาพหรูหรา และมีรถยนต์ราคาแพงจำนวนหลายคัน และได้พบเจ้าของบ้านชื่อนางไพรินทร์ หรือ แหม่ม รอดดอน จึงได้แสดงหมายค้นของศาล และเข้าทำการตรวจค้นบ้านดังกล่าว พบหญิงชาวลาวชื่อนางสาวพิม อายุประมาณ ๑๗ ปี ทำงานบ้านนายจ้างมาแล้วประมาณ ๕ ปี อยู่ในสภาพหวาดกลัว ซึมเศร้า และร้องไห้ ไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้โดยลำพังและถูกนายจ้างบังคับใช้แรงงานไม่ให้ออกไปไหน มีการทำร้ายร่างกายโดยใช้เครื่องมือช๊อตไฟฟ้าข่มขู่และลงมือกระทำจริง จนเด็กหวาดกลัวไม่กล้าหลบหนีไปไหน และหากช่วยเหลือออกไปได้ประสงค์จะไม่ทำงานที่บ้านหลังนี้อีกต่อไป
นอกจากนี้ ยังพบคนลาวที่ทำงานเป็นคนรับใช้อีก ๓ คน ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ ๗๑/๖๒ ที่ปลูกอยู่บริเวณพื้นที่เดียวกัน ทราบชื่อว่า น.ส.แสง พุทธิสะอาด อายุ ๒๖ ปี,นางสาวคำไข อายุประมาณ ๑๖ ปี และ ด.ญ.ทอง เทียมราช อายุประมาณ ๑๔ ปี เพิ่งมาทำงาน ๒ สัปดาห์ โดยได้รับการชักจูงจากนางบัวเงิน มาทำงานโดยผ่านนายนี ผู้ชายชาวลาว เป็นผู้มาส่งที่ชายแดนจังหวัดมุกดาหาร ต่อจากนั้น จะมี นายอ้วน คนไทย เป็นคนขับรถตู้จากจังหวัดมุกดาหารมาส่งที่ กทม.พร้อมเพื่อนรวม ๔ คน ซึ่งไม่รู้จักกัน จากนั้น ถึง กทม. มีรถแท็กซี่ไปรับต่อมาส่งที่บ้านนายจ้าง ส่วนอีก ๓ คน ไม่ทราบว่าส่งไปยังที่ใด หญิงชาวลาวทั้ง ๔ คน ไม่มีเอกสารการทำงาน หรือหนังสือเดินทางในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแต่อย่างใด ต่อมาเจ้าของบ้านได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ศคม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการตรวจค้นที่โรงงานผลิตและจำหน่ายวัตถุมงคล ซึ่งตนเองเป็นเจ้าของ ผลการตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวชาวลาวจำนวน ๒ คน ไม่มีเอกสารการทำงาน และอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย
พฤติการณ์ในเบื้องต้นพบว่า เด็กที่มาทำงานบางคนมีนายหน้าชาวลาว เป็นคนนำมาส่งให้เจ้าของบ้าน เพื่อทำงานเป็นเด็กรับใช้ในบ้านหลังดังกล่าวและบ้านหลังอื่นที่อยู่บริเวณเดียวกัน โดยนายหน้าเป็นผู้รับเงินค่าจ้างแทน ส่วนตัวเด็กจะไม่ได้รับเงินเลยและไม่สามารถเดินทางออกไปไหนได้ด้วยตนเอง จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสอบถามนายหน้าที่ควบคุมตัวมาพบว่า ขบวนการนำพาหญิงชาวลาวมาบังคับใช้แรงงานในประเทศไทย นั้น จะมีขบวนการนายหน้าในประเทศลาวที่เมืองเซโน ได้หลอกลวงหรือชักจูงคนงานให้มาทำงาน และไม่ได้รับเงินค่าจ้าง หรือมีบุคคลอื่นมารับเงินแทน และสภาพการทำงานในบ้าน จะไม่สามารถเดินทางออกไปไหนได้โดยลำพัง ซึ่งจะข่มขู่ว่าหากออกไปจะถูกตำรวจจับตัว เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ฉัฏรเพ็ชรมงคลฯ รายงาน/เรียบเรียง
