สรุปผลการประชุม ศอ.รส. เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๗

published: 24/3/2557 14:04:35 updated: 24/3/2557 14:04:35 1465 views   TH
 

สรุปผลการประชุม ศอ.รส. เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม  ๒๕๕๗  

 

ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้  

เรื่องที่ ๑  ศอ.รส. พิจารณาเห็นว่า ปัจจุบันยังคงมีกลุ่ม กปปส. ได้นำมวลชนไปปิดล้อมบุกรุกสถานที่ราชการหรือหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ  โดยมีพฤติกรรมคุกคามให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ออกจากสถานที่ทำงาน  ดังนั้น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในช่วงบ่ายวันนี้ ผู้อำนวยการ ศอ.รส. จึงได้เชิญปลัดทุกกระทรวงมาประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางร่วมกันในการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. ที่บุกรุกหรือทำให้เสียหายกับสถานที่ราชการ โดยเฉพาะพฤติกรรมการคุกคามให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ออกจากสถานที่ทำงาน  ซึ่งกำหนดว่าจะมีการดำเนินคดีใน ๔ ฐานความผิด ได้แก่ ความผิดฐานบุกรุก ความผิดต่อเสรีภาพฐานข่มขืนใจผู้อื่น  ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ และความผิดตามประกาศ ศอ.รส. ฉบับที่ ๑/๒๕๕๗ เรื่องห้ามบุคคลเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด และห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ลงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๗ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ ทั้งนี้แล้วแต่ข้อเท็จจริงเป็นกรณีไป  อนึ่ง ศอ.รส. ขอเรียนย้ำว่า ศอ.รส. มีนโยบายในการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. หรือกลุ่มอื่นใดที่นำมวลชนไปปิดล้อมสถานที่ราชการหรือหน่วยงานของรัฐอย่างจริงจังในทุกกรณี เนื่องจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐล้วนปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนทุกคน การปิดล้อมสถานที่ราชการเช่นนี้จึงก่อให้เกิดผลเสียทั้งต่อประชาชนและชาติบ้านเมือง สมควรที่จะต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ล่วงละเมิดกฎหมายดังกล่าวทุกคนและทุกกรณี  

 

เรื่องที่ ๒ ศอ.รส. ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ณ วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๗ ว่า คดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งอันเกิดจากการกระทำของแกนนำ กปปส. กับพวก เมื่อครั้งการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีดังนี้  

๑) คดี กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น ๑๙๔ คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๕๑ คดี และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด จำนวน ๑๔๓ คดี  

๒) คดีเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น ๑๗๘ คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๖๖ คดี และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด จำนวน ๑๑๒ คดี  รวมคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งทั้งสิ้น ๓๗๒ คดี โดยศาลได้ออกหมายจับให้ รวมทั้งสิ้น ๒๐๑ คน ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว ๒๐๕ คน ทั้งนี้เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง ๑,๗๑๓ คน  ศอ.รส. จะติดตามและกำชับการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปโดยเคร่งครัด และป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำอีกในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้  

 

โดยในวันนี้ ศอ.รส. ได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนในคดีพิเศษ ซึ่งรับผิดชอบดำเนินคดีกับนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส. รวมทั้งสิ้น ๕๘ คน ว่า จะได้นำเอาการกระทำความผิดฐานขัดขวางการเลือกตั้งเข้ามารวมกับความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ฐานร่วมกันยุยงให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย และฐานร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามที่ได้มีมติกำหนดไว้  เพราะถือว่าความผิดฐานขัดขวางการเลือกตั้งเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับคดีพิเศษดังกล่าว  อนึ่ง ศอ.รส.ขอย้ำเตือนว่า โทษที่เกี่ยวข้องกับการขัดขวางการเลือกตั้ง เป็นความผิดอุกฉกรรจ์ที่มีทั้งโทษจำคุกและปรับ รวมถึงการตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา ๕ ปี  ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ศอ.รส.จะติดตามและกำชับการดำเนินคดีอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปโดยเคร่งครัด และป้องปรามมิให้เกิดการกระทำผิดซ้ำอีกในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้  

 

จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน      

 

______________________

Lasted Post

Related Post