การช่วยเหลือหญิงไทยที่ไปทำงานนวดแผนไทยที่สาธารณรัฐแอฟริกาใต้

_{การช่วยเหลือหญิงไทยที่ไปทำงานนวดแผนไทยที่สาธารณรัฐแอฟริกาใต้}

                   ด้วยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการร้องขอจากนางภาวินี  ศรีดีเอี่ยม อายุ 56 ปี ให้ช่วยประสานการช่วยเหลือน้องสาวชื่อ นางรุ่งรัศมี  ศรีดีเอี่ยม ,กับพวก ซึ่งถูกชักชวนจากนายหน้าในประเทศไทยเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2556 โดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ทให้ไปทำงานเป็นวิทยากรสอนนวดแผนไทย ในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้  แต่เมื่อไปถึงกลับถูกหญิงไทยที่เป็นเจ้าของร้านกับพวกเก็บหนังสือเดินทาง และแจ้งว่าเป็นหนี้สินเจ้าของร้านจำนวนหนึ่ง แต่หากจะเดินทางกลับจะต้องใช้ชดใช้เงินหรือทำงานชดใช้หนี้สินให้หมดก่อน จึงได้ร้องขอผ่านกรมการกงสุล เพื่อช่วยเหลือให้น้องสาวชื่อ นางรุ่งรัศมี  ศรีดีเอี่ยม เดินทางกลับมาประเทศไทย  โดยตนต้องทำเรื่องร้องขอตามระเบียบของทางราชการ เพื่อให้ดำเนินการเกี่ยวกับค่าตั๋วเครื่องบินในการเดินทางกลับมาประเทศไทยในครั้งนี้ สำหรับตนเองได้เดินทางกลับมาประเทศไทยได้เนื่องจากสามีของตนได้กู้ยืมเงินนอกระบบมาชดใช้ให้กับนายจ้างจนครบถ้วนตามที่นายจ้างเรียกร้อง นายจ้างจึงส่งตัวกลับมาประเทศไทยได้ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 กรมการกงสุล ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  พ.ต.ต.จตุพร  อรุณฤกษ์ถวิล หัวหน้าคณะทำงานสืบสวน นายศรัณย์พงศ์  ฟุ้งเกียรติ รองหัวหน้าคณะทำงานสืบสวน นายเอกจิต ไชยวงศ์ พสพ.ชพ. นางสาวธนวรรณ อัคคพาณิช จคพ.ชพ. และนายนิติภัทร แสงพัฒน์ จคพ.ชก. สังกัดศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นางสาวพัชรี แนวพานิช ผอ.ส่วนช่วยเหลือเหยื่อชาวไทย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และนางสาวพัฒน์ชนะสรณ์  สุขใย หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา 7 ศูนย์ประสานการปฎิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กรมการปกครอง ได้ประสานการช่วยเหลือให้นางรุ่งรัศมีฯ เดินทางกลับมายังประเทศไทยด้วยความเรียบร้อย ซึ่งในขั้นตอนต่อไป ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะดำเนินการประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการคัดแยกผู้เสียหายว่าเป็นกรณีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์หรือไม่ ต่อไป อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมด้วยว่ามีหญิงไทยเสียชีวิตในประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้จำนวน 1 ราย ซึ่งได้นำศพกลับมาประเทศไทยแล้ว และอยู่ระหว่างประสานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตตามที่ญาติได้ร้องขอไว้ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้แต่งตั้งคณะทำงานสืบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานประกอบการพิจารณาด้วยแล้ว  ซึ่งจะเร่งดำเนินการสรุปผลในเรื่องดังกล่าวนี้โดยเร็วต่อไป