จำคุก 7 ปี ผู้มีอิทธิพลลักลอบขุดทรายในเขตป่าสงวน จังหวัดพังงา

เผยแพร่: 12 ต.ค. 2559 10:53 น. ปรับรุง: 12 ต.ค. 2559 10:53 น. เปิดอ่าน 2198 ครั้ง  
 
จำคุก 7 ปี ผู้มีอิทธิพลลักลอบขุดทรายในเขตป่าสงวน จังหวัดพังงา
 
     ตามที่รัฐบาลมีนโยบายและให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เพื่อสงวน รักษา ไว้ให้เป็นสมบัติของประเทศชาติ โดยพลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบนโยบายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งรัด ปราบปรามผู้มีอิทธิพลเกี่ยวกับบุกรุก ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสามารถทวงคืนผลประโยชน์ให้กับรัฐตามเป้าหมายที่วางไว้ นั้น
 
     พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดรายอื่นๆ ของขบวนการลักลอบขุดทรายในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ซึ่งพบว่า กลุ่มผู้มีอิทธิพลมีขบวนการสร้างนอมินี (ตัวแทน) ขึ้นมายื่นคำขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนดังกล่าวเพื่อหวังผลทางการค้าอย่างต่อเนื่องและรู้เห็นกับข้าราชการในท้องถิ่น โดยอำพรางตนเอง ซึ่งจะส่งข้อมูลให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นฐานข้อมูลในการพิจารณา รวมถึงดำเนินการกับข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าว
 
     ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2559 ศาลจังหวัดพังงา ได้พิพากษาจำคุก ดาบตำรวจวงศ์วัฒน์ หรือ ฉัตรชัย วิจิตรจินดา , นายสมพงษ์ วิจิตรจินดา และ นางระเบียบ วิจิตรจินดา คนละ 10 ปี 6 เดือน ทางนำสืบของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ เห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ 7 ปี และให้จำเลยทั้งสามคืนทรายที่ถูกลักเอาไป 152,970 คิว หรือใช้ราคาเป็นเงิน 15,297,000 บาท ให้กับรัฐ และเนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นมูลฐานความผิดฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ส่งเรื่องให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้กระทำผิดแล้ว นับเป็นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้มีอิทธิพลรายสำคัญของจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต
 
     คดีนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2555 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงากวาดล้างขบวนการลักลอบขุดทรายในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา โดยก่อนเกิดเหตุประมาณ 5 ปี ประชาชนในพื้นที่ตำบลลำแก่น และตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ได้ออกมาต่อต้านการขุดทรายในพื้นที่เกิดเหตุเนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เกิดมลพิษทางฝุ่นละอองทรายกระจายทั้งชุมชน มีการลักลอบขนทรายทั้งกลางวันและกลางคืนทำให้แผ่นดินสะเทือน ประชาชนในพื้นที่ได้รับความทุกข์ทรมาน และต่อมามีเหตุการณ์ยิงแกนนำประชาชนจนเสียชีวิต ทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่กล้าออกมาต่อสู้อีก กระทั่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับการประสานจากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงา ขอกำลัง เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ามาจับกุมดำเนินคดีเนื่องจากกลุ่มผู้กระทำผิดเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่รายสำคัญ จึงได้สนธิกำลังและเข้าจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีจำนวน 5 ราย (6 พื้นที่) โดยคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 252/2555 รายดาบตำรวจวงศ์วัฒน์ หรือ ฉัตรชัย วิจิตรจินดา , นายสมพงษ์ วิจิตรจินดา และ นางระเบียบ วิจิตรจินดา ได้ลักลอบขุดทรายมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี สภาพที่เกิดเหตุเป็นหลุมเป็นบ่อขนาดใหญ่ และจากการตรวจหลักฐานเบื้องต้นพบว่า มีการลักลอบขุดทรายไปไม่น้อยกว่า 152,970 คิว มูลค่าอย่างน้อย 15,297,000 บาท จึงได้ทำการจับกุมและดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว ในความผิดฐานบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่า และที่ดินของรัฐ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 , พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ ประมวลกฎหมายที่ดิน และฐานร่วมกันประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานร่วมกันลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์
 
 
***************************************

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ