ดีเอสไอจับกุม แก๊งแฮกเกอร์ชาวจีน ร่วมกับคนไทย แฮกส์ระบบเกมส์ออ
เผยแพร่: 8 ส.ค. 2557 10:58 น. ปรับรุง: 8 ส.ค. 2557 10:58 น. เปิดอ่าน 3454 ครั้ง“สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ (สคท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ จับกุม แก๊งแฮกเกอร์ชาวจีน ร่วมกับคนไทย แฮกส์ระบบเกมส์ออนไลน์ และนำข้อมูลภายในเกมส์มาจำหน่ายผ่านเว็บไซต์”
ในวันนี้ (วันพุธที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๗) พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อธิบดีกรมสอบสวน คดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุริยา สิงหกมล ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีสารสนเทศ ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งแฮกเกอร์ชาวจีน ร่วมกับคนไทย แฮกส์ระบบเกมส์ออนไลน์ และนำข้อมูลภายในเกมส์มาจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ ๓๐ ล้านบาท ณ ห้องแถลงข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ
พล.ต.อ.ชัชวาลย์กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นผลจากคดีพิเศษ ที่ 150/2555 : กรณีเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะหรือทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนในข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของระบบเกมส์ Ran Online ซึ่งเป็นเกมส์ต่อสู้ โดยมีลูกเล่นในการเพิ่มอุปกรณ์ เพิ่มระดับตัวละครในเกมส์ และเปิดให้ลูกค้าเล่นผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมีบริษัท ซินเซียร์เอ็ดดูเทนเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ มาจากบริษัท มินคอม จำกัด (ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีฯ) เป็นผู้เสียหาย ซึ่งได้รับผลกระทบจากความเสียหายต่อธุรกิจคิดเป็นมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท
พฤติการณ์ การกระทำความผิด คือ บริษัทซินเซียร์เอ็ดดูเทนเม้นท์ จำกัด โดย เป็นผู้รับมอบอำนาจมาร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สืบสวนสอบสวนภายหลังเป็นคดีพิเศษ จนพบว่าเว็บไซต์ ที่มีการจำหน่าย M (อุปกรณ์ภายในเกมส์) Ran Online ๓ เว็บไซต์
๑.www.happymday.com ๒.www.msanook.com 3. www.mdede.com
จากการสืบสวนสอบสวนปรากฏมีการจำหน่าย M (เงินในเกมส์) เกี่ยวข้องกันทั้ง ๓ เว็บไซต์ ,ปรากฏหมายเลขโทรศัพท์ที่ทำการประกาศขาย และข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินในการซื้อขาย ผ่านหน้าเว็บไซต์ เชื่อได้ว่า นางสาวอุมาพร ปานดี ,นายคุณากร โศจิธรรมกุล และนายโจว์ เจิ้นฮาว หรือ Mr.Zhou Zhenhou ร่วมกันแฮกส์ระบบเกมส์ออนไลน์ และนำข้อมูลภายในเกมส์ มาจำหน่ายผ่านเว็บไซต์
จากพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศรวบรวมได้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการ
๑.เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ได้เชิญ ผู้ต้องหารายที่ ๑ นายคุณากร โศจิธรรมกุล มายัง สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการแจ้งข้อเท็จจริง พฤติการณ์ และข้อกล่าวหาในการกระทำความผิดผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหา โดยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงไม่ได้ทำการควบคุมตัว
๒. พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการขออนุมัติ ศาลอาญาเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก ๒ รายคือ
๒.๑ นายเจิ้นฮาว โจว์ หรือ Mr.Zhou Zhenhou เชื้อชาติ/สัญชาติ จีน (ตามหมายจับที่ ๑๒๒๖/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗) อายุ ๓๑ ปี
2.2 นางสาวอุมาพร ปานดี เชื้อชาติ/สัญชาติ ไทย (ตามหมายจับที่ ๑๒๒๕/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗)
๓. พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการขออนุมัติ ศาล เพื่อขอหมายค้น
๓.๑ ศาลจังหวัดนนทบุรี ได้อนุมัติหมายค้นที่ ๑๓๐๓/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ คอนโดธารารินทร์เจ้าพระยา เลขที่ ๑๓๒/๘๓ ห้องเลขที่ ๖๑๕ ชั้น ๖ หมู่ที่ ๕ อ.เมือง จ.นนทบุรี ๑๑๐๐๐
๓.๒ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุมัติหมายค้นที่ ๑๐๓/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗ ให้ทำการค้น ห้องเลขที่ ๘ D ชั้น ๘ อาคารจีพีเฮาท์สาทร เลขที่ 466/31 ซ.สวนพูล ถ.สาทร แขวง ทุ่งมหาเมฆ กรุงเทพฯ
ต่อมาในวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๗ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สคท. ได้ดำเนินการตรวจค้น และจับกุมนายเจิ้นฮาว โจว์ หรือ Mr.Zhou Zhenhou ได้ที่ คอนโดธารารินทร์เจ้าพระยา เลขที่ ๑๓๒/๘๓ ห้องเลขที่ ๖๑๕ ชั้น ๖ หมู่ที่ ๕ อ.เมือง จ.นนทบุรี และได้ทำการตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทางคดี เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา ทรัมไดร์ สมุดบัญชีที่ใช้ในการโอน และรับเงินจากการกระทำความผิดในคดีพิเศษนี้ บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็ม จำนวนหนึ่ง
ฐานความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐
มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 7 การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 9 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลคอมพิวเตอร์ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยได้ร่วมกันกระทำความผิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
*************************************