สรุปผลการประชุม ศอ.รส.เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๗

เผยแพร่: 27 มี.ค. 2557 23:30 น. ปรับรุง: 27 มี.ค. 2557 23:30 น. เปิดอ่าน 1484 ครั้ง  
 

สรุปผลการประชุม ศอ.รส.เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม  ๒๕๕๗  

ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส.มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบดังนี้  

เรื่องที่ ๑ ศอ.รส.ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ณ วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๗ ว่า คดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งอันเกิดจากการกระทำของแกนนำ กปปส. กับพวก เมื่อครั้งการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีดังนี้  

๑) คดี กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น ๑๙๑ คดี  แยกเป็นคดีเกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๕๑ คดี  และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด จำนวน ๑๔๐ คดี    

๒) คดีที่เจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น ๑๘๐ คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๖๖ คดี  และคดีที่เกิดในต่างจังหวัดจำนวน ๑๑๔ คดี   รวมคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งทั้งสิ้น ๓๗๑ คดี  โดยศาลได้ออกหมายจับให้ รวมทั้งสิ้น ๒๐๑ คน  ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว ๒๒๖ คน  ทั้งนี้เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง ๑,๗๑๓ คน  สำหรับในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐที่จงใจหลีกเลี่ยงไม่จัดการเลือกตั้งนั้น

 

วันนี้ ศอ.รส. ได้รับการชี้แจงจากเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐว่า สำนักงาน ป.ป.ท. ได้รับรายละเอียดการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ท. จะได้ดำเนินการเร่งรัดไต่สวนข้อเท็จจริงในกรณีนี้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  ทั้งนี้ ศอ.รส. จะติดตามและกำชับการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปโดยเคร่งครัด และป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำอีกในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้  

 

เรื่องที่ ๒  ตามนโยบายของ ศอ.รส. ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ได้เห็นถึงความจำเป็นและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากการที่กลุ่ม กปปส. หรือกลุ่มอื่นใด ได้นำมวลชนไปปิดล้อมสถานที่ราชการหรือหน่วยงานของรัฐต่างๆ ดังนั้น ศอ.รส. ร่วมกับส่วนราชการจึงได้ดำเนินการเปิดสถานที่ราชการต่างๆ ที่ถูกปิดให้เริ่มเปิดทำการได้ถึง ๖๗ แห่งแล้ว

 

ทั้งนี้ ศอ.รส. ขอร้องกลุ่มมวลชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม กปปส. กลุ่ม นปช. หรือกลุ่มอื่นใดให้งดเว้นการเข้าปิดล้อม ปิดกั้น และคุกคามการทำงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ ศาล และหน่วยงานต่างๆ เพราะเป็นการก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองอย่างมาก โดยเฉพาะการให้บริการประชาชนของหน่วยงานต่างๆ ก็จะต้องหยุดลง หรือเป็นโดยล่าช้าหรือเสียหาย อันเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมาย โดยหาได้เกิดประโยชน์กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเลย

 

นอกจากนี้ ศอ.รส. ยังมีนโยบายให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับแกนนำกลุ่ม กปปส. หรือกลุ่มอื่นใดที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งศาลได้มีการออกหมายจับผู้กระทำผิดแล้วหลายราย และแม้ว่าการเข้าจับกุมผู้กระทำผิดอาจจะไม่สามารถดำเนินการได้ทันที แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะไม่ละเลย และจะทำการจับกุมดำเนินคดีทันทีเมื่อมีโอกาสอันเหมาะสมว่าจะไม่เกิดการปะทะหรือสูญเสีย ซึ่งความผิดในเรื่องนี้มีอายุความอันยาวนาน  

 

เรื่องที่ ๓ ศอ.รส. เป็นหน่วยงานพิเศษที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในสถานการณ์ที่เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มว่าจะเกิดการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายต่างๆ จนอาจนำไปสู่ความรุนแรงได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุร้ายที่มีการใช้อาวุธปืนและระเบิดยิงเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะหลังมานี้ และเมื่อคืนที่ผ่านมานี้ก็มีเหตุยิงระเบิดเอ็ม ๗๙ เข้าไปในพื้นที่ชุมนุมที่ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่ง ศอ.รส. ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และพลเรือนฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบเหตุดังกล่าวโดยทันที  อนึ่ง จากการที่ ศอ.รส. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนหาข่าวเพื่อระงับเหตุร้ายต่างๆ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๗ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการตรวจค้นและสามารถจับกุมผู้ต้องหา ๒ คนซึ่งพกพาอาวุธปืนยาวสไนเปอร์ (เซกาเซ่) ได้จำนวน ๒ กระบอก พร้อมกระสุน ๒๐ นัด โดยลักลอบนำมาเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้า อาวุธปืนดังกล่าวถือเป็นอาวุธร้ายแรงที่สามารถนำมาดัดแปลงเป็นปืนซุ่มยิงเพื่อใช้ในการลอบสังหารได้โดย ศอ.รส. จะได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังต่อไป  

 

จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน

 

______________________

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ