DSI ทลายโกดังเก็บสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้ารายใหญ่ จังหวัดภูเก็ต
เผยแพร่: 20 เม.ย. 2565 8:51 น. ปรับรุง: 20 เม.ย. 2565 8:51 น. เปิดอ่าน 1891 ครั้งDSI ทลายโกดังเก็บสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้ารายใหญ่ จังหวัดภูเก็ต
ภายใต้นโยบายท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง
เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 10.00 นาฬิกา กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม โดย นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา นำโดย ร้อยตำรวจเอก พลสัณห์ เทิดสงวน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา นางสาวจารุวรรณ ครุสาตะ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1 และกำลังเจ้าหน้าที่กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา นำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจค้นสถานที่เก็บสินค้าปลอม จำนวน 5 แห่ง ซึ่งผลการตรวจค้นพบสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า 4 แห่ง คือ 1. โกดัง (ไม่ทราบเลขที่) หมู่ 5 ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต 2. บ้านเลขที่ 112 และ 112/1 หมู่ ๖ ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต 3.บ้านเลขที่ 35/192 หมู่ 2 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 4. บ้านเลขที่ 35/168 หมู่ 2 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยพบสินค้าเสื้อผ้าปลอมเครื่องหมายการค้า อาทิ หลุยส์วิตตอง (LOUIS VUITTON) กุชชี่ (GUCCI) ไนกี้ (NIKE) อาดิดาส (ADIDAS) ชาแนล (CHANEL) และยี่ห้ออื่น ๆ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 100,000 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหาย หรือมูลค่าตามราคาท้องตลาดกว่า 50 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง โดยกล่าวหาว่า “เสนอจำหน่าย และมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ซื้อหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร”
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ทำการสืบสวนพบว่า มีสถานที่จำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักรอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยสถานที่ดังกล่าวมีพฤติการณ์การกระทำความผิดเป็นแหล่งค้าส่งค้าปลีกผ่านเพจเฟซบุ๊ก โดยเสนอจำหน่ายสินค้าปลอมคุณภาพเกรด AAA เพื่อขายให้กับผู้ที่สนใจอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำลายเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย จึงได้วางแผนทำการตรวจค้นและยึดของกลางไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ความสำคัญกับการป้องกันปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รายใหญ่ เนื่องจากประเทศไทยถูกสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) จัดอันดับสถานะทางการค้า อยู่ในบัญชีประเทศที่ถูกจับตา (WL) ในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา และมีนโยบายในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มข้น โดยจะได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยเฉพาะเขตพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (พื้นที่สีแดง) อย่างจริงจังและเด็ดขาด ต่อไป