DSI ส่งสำนวนคดีพิเศษ นักศึกษา ม.ดัง แอดมินกลุ่มไลน์เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก เตือน!! ผู้ครอบครอง ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อาจต้องโทษจำคุก 3 - 10 ปี
เผยแพร่: 28 ก.ย. 2566 10:16 น. ปรับรุง: 28 ก.ย. 2566 10:18 น. เปิดอ่าน 196 ครั้งDSI ส่งสำนวนคดีพิเศษ นักศึกษา ม.ดัง แอดมินกลุ่มไลน์เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก เตือน!! ผู้ครอบครอง ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อาจต้องโทษจำคุก 3 - 10 ปี
วานนี้ (วันที่ 27 กันยายน 2566) กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่งสำนวนคดีละเมิดทางเพศเด็กไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด โดยผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวมีพฤติการณ์ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก และโฆษณาขายสื่อลามกอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ในแพลตฟอร์มไลน์ โดยมีราคาตั้งแต่ 150-500 บาท
คดีดังกล่าวสืบเนื่องเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2566 ส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก (Child Sexual Exploitation Crime Center : CSECC) กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นำโดยนายยศสันธ์ เรืองสรรงามสิริ รองผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 37/2566 เข้าตรวจค้นและจับกุมชายไทย 1 ราย อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี
จากการตรวจสอบพบการครอบครองภาพนิ่งและคลิปวิดีโอลามกอนาจารเด็กสวมชุดนักเรียน
ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา เป็นจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 5,000 ไฟล์ โดยได้เผยแพร่ให้ผู้สมัครสมาชิกเข้าดูในแพลตฟอร์มไลน์ จากการตรวจค้นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้แจ้งข้อหาในฐานครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือครอบครองเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่าย มีความผิดทางอาญา ตามกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 และมาตรา 287/2 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใด ๆ ที่มีลักษณะลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
อนึ่ง แพลตฟอร์มดังกล่าวมีผู้ใช้บริการและเงินหมุนเวียนจำนวนมาก จากการสืบสวนของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพบว่า มีความเชื่อมโยงกับการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก โดยทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจักได้สืบสวนขยายผลต่อไป
กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงขอแจ้งเตือนไปยังประชาชน การครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โทษจำคุกไม่เกิน 5 - 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หากเป็นการ ครอบครองเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่าย โทษจำคุกไม่เกิน 3 - 10 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 - 200,000 บาท ตามกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 และมาตรา 287/2 หากมีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับการละเมิดทางเพศเด็ก หรือมีการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิดต่อไป
ทั้งนี้ สามารถแจ้งข้อมูล/เบาะแสได้ที่เว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th หรือ สายด่วน กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร.1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ)