อธิบดี DSI มีความเห็นควรสั่งฟ้อง บริษัท ทรีดอม (ประเทศไทย) จำกัด ฉ้อโกงประชาชนโดยการชักชวนให้ร่วมลงทุนปลูกไม้กฤษณา มูลค่าความเสียหาย 152,249,745 บาท
เผยแพร่: 21 ก.ย. 2566 8:34 น. ปรับรุง: 21 ก.ย. 2566 8:34 น. เปิดอ่าน 51 ครั้งอธิบดี DSI มีความเห็นควรสั่งฟ้อง บริษัท ทรีดอม (ประเทศไทย) จำกัด
ฉ้อโกงประชาชนโดยการชักชวนให้ร่วมลงทุนปลูกไม้กฤษณา
มูลค่าความเสียหาย 152,249,745 บาท
ตามที่กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการสอบสวนคดีพิเศษที่ 38/2563 กรณี บริษัท ทรีดอม (ประเทศไทย) จำกัด โฆษณาชักชวนให้ประชาชนนำเงินมาลงทุนซื้อต้นไม้กฤษณาจากบริษัท กำหนดลงทุนขั้นต่ำ 100,000 บาท ซึ่งจะต้องลงทุนน้อยสุด 10 - 20 ต้น สูงสุดไม่เกิน 400 ต้น ตกลงจ่ายผลตอบแทนร้อยละ 14 - 20 และบริษัทจะรับซื้อคืนต้นกฤษณาทั้งหมดภายใน 6 ปี ผู้ลงทุนจะได้รับต้นทุนและผลตอบแทนคืนในคราวเดียวกัน ซึ่งเป็นการปลูกต้นกฤษณาในที่ดินของบริษัทเอง จะมีผู้เชี่ยวชาญควบคุมดูแลควบคุมคุณภาพ ต้นไม้ของผู้ลงทุนจะมีหมายเลขกำกับ สามารถตรวจสอบได้ บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO ในการบริหารจัดการโรงกลั่นน้ำมันกฤษณา โดยจัดให้พนักงานขายพาประชาชนไปดูแปลงปลูกต้นกล้าไม้กฤษณาและต้นใหญ่ตามแปลงที่ปลูกไว้แล้ว 2 - 3 แปลง นำเอกสารของผู้ลงทุนรายอื่นหลากหลายอาชีพ เช่น ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร แพทย์ ฯลฯ มาแสดงเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือว่ามีการให้ผลตอบแทน แก่ผู้ลงทุนจริง ซึ่งบริษัทไม่สามารถดำเนินเนินกิจการตามที่กล่าวอ้างได้ และจากการหลอกลวงข้างต้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินมาลงทุน จำนวน 105 ราย มูลค่าความเสียหาย 152,249,745 บาท (หนึ่งร้อยห้าสิบสองล้านหกแสนสี่หมื่นเก้าพันเจ็ดร้อยห้าสิบหกบาทถ้วน)
บัดนี้ การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ทางคดีมีพยานหลักฐานพอฟ้อง โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นควรสั่งฟ้องบริษัท ทรีดอม (ประเทศไทย) จำกัด กับพวก ในความผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็น การฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 12 มาตรา 15 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 342 มาตรา 343 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91 โดย พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้มอบหมายให้ นางสาวปริมณ์ สาริยา ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 2 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 38/2563 จำนวน 35 แฟ้ม จำนวน 12,051 แผ่น พร้อมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ในวันที่ 18 กันยายน 2566 เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป