DSI จับเพิ่มอีก 2 ผู้ต้องหาพนันออนไลน์/ฟอกเงินเครือข่าย “แม่มนต์” รวม 22 รายแล้ว
เผยแพร่: 8 พ.ย. 2567 15:58 น. ปรับรุง: 8 พ.ย. 2567 15:59 น. เปิดอ่าน 327 ครั้งDSI จับเพิ่มอีก 2 ผู้ต้องหาพนันออนไลน์/ฟอกเงินเครือข่าย “แม่มนต์” รวม 22 รายแล้ว
วานนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2567) เวลาประมาณ 13.00 น. ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 ได้ร่วมกันจับกุมนายรัฐศักดิ์ (สงวนนามสกุล) และนางสาวณุภาลักษณ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาเครือข่าย “แม่มนต์” ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1918/2567 และ 1919/2567 ลงวันที่ 26 เมษายน 2567 ในข้อหาการเข้าถึงบัญชีธนาคารของผู้อื่นและร่วมกันจัดให้มีการพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงข้อหาฟอกเงิน ซึ่งทั้งสองเป็น สามี ภรรยากัน ได้กระทำความผิดฐานเดียวกัน คือ ร่วมกันเข้าถึงบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ของตน ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายได้ที่ บริเวณปากทางเข้าริมถนนซากค้อ-หนองขาม ซอย 7 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่า ต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ รวมทั้งได้แจ้งพนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี และนายอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในวันนี้ (วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ได้สอบสวนปากคำและนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปฝากขังที่ศาลอาญาแล้ว
คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 76/2566 กรณี กลุ่มผู้กระทำผิดมีการเข้าถึงบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ของตน ผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้ง และ/หรือ อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง เพื่อกระทำความผิดในลักษณะเป็นการโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันโดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์อันทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการพนันออนไลน์ได้ (เครือข่ายแม่มนต์) มีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งมีกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศเป็นผู้รับผิดชอบ โดยปัจจุบันมีผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวแล้ว รวม 22 ราย จากทั้งหมด 38 ราย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป
ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชา จัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดในอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป