DSI ส่งสำนวนคดีเว็บพนันออนไลน์ UFA ให้พนักงานอัยการพิจารณา
เผยแพร่: 18 ม.ค. 2567 18:45 น. ปรับรุง: 19 ม.ค. 2567 5:35 น. เปิดอ่าน 72 ครั้งวันนี้ (18 มกราคม 2567) พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ
รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ นางสาวมรรษมน พรหมประพันธ์
ผู้อำนวยการส่วนคดียาเสพติด 1 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำสำนวนคดีพิเศษที่ 8/2566
พร้อมตัวผู้ต้องหา 30 รายส่งให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ
ทั้งนี้
ในคดีพิเศษที่ 8/2566 เป็นการกล่าวหาดำเนินคดีกับขยายผลจากบัญชีม้าที่ชื่อ “ชบา”
ซึ่งกองคดียาเสพติด ได้รับมอบหมายให้สอบสวนเพื่อหาความผิดมูลฐานว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวใช้ในกิจการผิดกฎหมายใดในระหว่างปี 2560 - 2563
จนพบว่าเป็นบัญชีธนาคารที่ใช้ในการรับเงินค่าเปอร์เซ็นต์ของเจ้าของเว็บพนัน UFA
ที่จะต้องรับค่าโครงข่ายจากกลุ่มเอเจนท์เว็บพนันที่นำเอาโครงข่ายของ UFA ไปทำการตลาดในชื่ออื่น ๆ ซึ่งในคดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการสอบสวนไปจนพบว่าผู้เป็นเจ้าของโครงข่าย UFA ที่สูงสุดของประเทศไทยคือ นายภูชิชย์ (สงวนนามสกุล) หรือฉายา ดีดี้
ซึ่งได้หลบหนีออกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศหลายปีก่อนนี้แล้ว และได้มอบหมายให้
นายภาคภูมิ หรือ บอส คอยดูแลกิจการเกี่ยวกับการรับเงินปันผลจากเอเจนท์ต่าง ๆ
แทนพี่ชายในลักษณะกิจการครอบครัว โดยนายภาคภูมิ
ได้ถูกจับกุมตัวไว้แล้วเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมาปัจจุบันอยู่ระหว่างฝากขังในทัณฑสถาน
จากการสอบสวนคดีพิเศษที่ 8/2566 พบว่า ในห้วงปี 2563 - 2566 เครือข่ายนี้มีเงินหมุนเวียนกว่า 10,000 ล้านบาท มีผู้ต้องหา 50 ราย เข้ารับทราบข้อหา 25 ราย ออกหมายจับไว้ 25 ราย (จับกุมตามหมายจับแล้ว 5 ราย) ของกลางในคดี อายัดบัญชีธนาคาร เป็นเงิน 27,962,977.73 บาท อายัดทางทะเบียนพาหนะ 19 คัน เป็นเงิน 38,815,000 บาท อายัดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 23 รายการ เป็นเงิน 2,602,694,000 บาท รวมทรัพย์สินที่อายัดทั้งสิ้น 2,669,471,977.73 บาท โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีความเห็นทางคดีเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 50 ราย ในความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันฟอกเงิน กับกลุ่มบุคคล 3 กลุ่มคือ คือ 1.กลุ่มเจ้าของกิจการและคนใกล้ชิด 2.กลุ่มพนักงานและบัญชีม้า3.กลุ่มเอเจนท์ที่สอบสวนพบในคดีนี้ ทั้งนี้การสอบสวนในคดีนี้เสร็จสิ้นแล้ว โดยจากนี้จะได้ขยายผลเป็นคดีต่อเนื่องไปยังกลุ่มบุคคลในระดับเอเจนท์ที่เหลือทั้งหมด และส่งเรื่องให้สำนักงาน ปปง.ดำเนินการทางแพ่งต่อทรัพย์สินบุคคลที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป