DSI จับผู้ต้องหานำเข้ารถหรูปอร์เช่คาเยนน์เลี่ยงภาษีกว่า 10 ล้านบาท
เผยแพร่: 19 ก.พ. 2567 12:02 น. ปรับรุง: 19 ก.พ. 2567 12:02 น. เปิดอ่าน 22 ครั้งวันนี้ (วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์
2567) เวลาประมาณ 07.50 น. ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว โดยชุดปฏิบัติการที่ 2
ได้ร่วมกันจับกุม นางสาวรัญชยา หรือนางสาวกนิษฐา (สงวนนามสกุล)
ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 3714/2566 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2566
ในคดีพิเศษที่ 31/2565 โดยผู้ต้องหาเป็นบริษัทนำเข้ารถหรูยี่ห้อปอร์เช่คาเยนน์ (PORSCHE
CAYENNE) หลีกเลี่ยงภาษีกว่า 10 ล้านบาท เจ้าพนักงานผู้จับกุม จึงได้แจ้งข้อหา
ร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้นๆ
ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 243 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 253 (เดิมคือ มาตรา 27
มาตรา 115 จัตวา แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469)ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ซึ่งเจ้าพนักงานจับกุมได้ที่บริเวณริมฟุตบาทข้างถนนในซอยทิพย์วารีแขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้
เจ้าพนักงานชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 83 วรรคหนึ่งและวรรคสองและรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ
ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว
รวมทั้งได้แจ้งไปยังพนักงานอัยการและสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
ในเขตกรุงเทพมหานคร และได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1)
ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565
เรียบร้อยแล้ว ต่อมาเวลาประมาณ 09.50 น. พนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบสำนวน
ได้รับตัวผู้ต้องหาพร้อมบันทึกการจับกุมเพื่อนำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
การดำเนินการในการติดตามกับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของพันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นตรงการบังคับบัญชาจัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดในอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป