THDSI สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นโรงพักสินค้าเอกชน พบสินค้าต้องสงสัยหลีกเลี่ยงภาษีจำนวนมาก มูลค่ากว่าหลายล้านบาท
เผยแพร่: 26 พ.ย. 2564 16:06 น. ปรับรุง: 14 ม.ค. 2565 16:30 น. เปิดอ่าน 1711 ครั้ง
EN
DSI สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นโรงพักสินค้าเอกชน พบสินค้าต้องสงสัยหลีกเลี่ยงภาษีจำนวนมาก มูลค่ากว่าหลายล้านบาท
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับรายงานจากสายข่าวแจ้งเบาะแสว่ามีขบวนการกระทำความผิดในการลักลอบนำสินค้าเข้าประเทศโดยการหลีกเลี่ยงภาษี และอาศัยโอกาสจากข้อยกเว้นด้านศุลกากรในกระทำความผิด ในลักษณะ “เป็นของที่นำเข้าซึ่งแต่ละรายมีราคา CIF (Cost Insurance and Freight) ไม่เกิน 1,500 บาท จะได้รับยกเว้นอากร ตามประเภท 12 ภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 และไม่เป็นของต้องห้ามต้องกำกัด” ซึ่งสินค้าเหล่านั้นได้พักไว้ในโรงพักสินค้าศุลกากรของเอกชนในพื้นที่จังหวัดนครพนม
ดงนั้น เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้มอบหมายให้พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค สั่งการให้ นายวรพจน์ ไม้หอม รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค นายโยธิน ธรรมสุรีย์ ผู้อำนวยการส่วนกลั่นกรองคดีและการข่าวคดีพิเศษภาค และร้อยตำรวจโท เสฏฐวุฒิ สายป้อง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 3 พร้อมด้วยคณะพนักงานสืบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรจังหวัดนครพนม ,ศรภ. และ กอ.รมน. นำหมายค้นของศาลอาญาที่ 1028/2564 เข้าตรวจค้นโรงพักสินค้าตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร (โรงพักสินค้าเอกชน) ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจเก็บ หรือตรวจปล่อยของนําเข้า ของผ่านแดน ของถ่ายลํา ที่ยังมิได้เสียอากรและยังอยู่ในอารักขาของศุลกากรแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดนครพนม ผลการตรวจค้นพบสิ่งของต้องสงสัยหลายรายการ ซึ่งเป็นที่น่าเชื่อว่าของมีมูลค่าเกินอัตราตามประกาศข้างต้นและอาจมีการหลีกเลี่ยงภาษี รวมมูลค่ากว่าหลายล้านบาท โดยหลังจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะประสานงานร่วมกับกรมศุลกากร ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง จากการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจังหวัดตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่ามีกลุ่มบุคคลกระผิดกฎหมายซึ่งมีผลกระทบต่อความมั่นคงและระบบเศรษฐกิจของประเทศ ที่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งการลักลอบขนของผิดกฎหมาย ลักลอบขนแรงงานซึ่งเป็นลักษณะการค้ามนุษย์บางแห่งมีการลักลอบทำลายทรัพยากรอันกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลักลอบขุดทรายตามแนวชายแดน ซึ่งกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาคจะได้มีการสืบสวนหาข่าวในพื้นที่เพื่อดำเนินการต่อไปด้วย
