DSI จับกุมแอดมินพนันออนไลน์ เครือข่ายเจ้าของร้านหอยชื่อดัง แจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินเพิ่มอีกกระทง
เผยแพร่: 20 พ.ย. 2567 11:25 น. ปรับรุง: 20 พ.ย. 2567 11:44 น. เปิดอ่าน 341 ครั้งDSI จับกุมแอดมินพนันออนไลน์ เครือข่ายเจ้าของร้านหอยชื่อดัง แจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินเพิ่มอีกกระทง
ตามที่ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ กองคดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษทำการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันเป็นขบวนการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บพนันออนไลน์โดยมีตัวการเป็นเจ้าของร้านอาหารในชื่อหอยจ๋าซึ่งเป็นร้านดังในเขตกรุงเทพฯ และมีเงินหมุนเวียนในบัญชีและวงพนันออนไลน์กว่า 500 ล้านบาท มีกลุ่มบุคคลที่ทำหน้าที่ในการชักชวนให้ผู้อื่นเข้ามาเล่นพนันออนไลน์ และขบวนการในการช่วยเหลือการจำหน่ายจ่ายโอนและเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน ที่ได้จากเว็บพนันออนไลน์เพื่อให้ยากต่อการติดตามและหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของหน่วยงานของรัฐโดยใช้บัญชีธนาคารพาณิชย์ของตนเองเป็นบัญชีพักเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดจำนวนมากกว่า 40 ราย (คดีพิเศษที่ 5/2566) และคดีดังกล่าวได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ไปก่อนหน้าแล้ว
วานนี้ (วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567) เวลาประมาณ 10.00 น. ชุดปฏิบัติการที่ 3 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรห้วยเม็ก จับกุม นายกฤษดา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1980/2566 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2566 ซึ่งทำหน้าที่เป็นแอดมินเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าว และหลบหนีระหว่างการดำเนินคดี ถูกกล่าวหาว่า“ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรืออุบายล่อช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน” โดยเจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุมได้ บริเวณบ้านในตำบลหัวหิน อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติด ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ การดำเนินคดีเพื่อปราบปรามการพนันออนไลน์ เป็นนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการปราบปรามการพนันออนไลน์ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ปปง. และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้มีการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกันในการจับกุมผู้ต้องหาก็ต้องคำนึงถึงการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการสอบสวนคดีพิเศษและให้เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของสังคมในการป้องกันปราบปรามสืบสวนสอบสวนคดีในความรับผิดชอบ เพื่อให้การบริหารองค์การมีความยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป