DSI ลงพื้นที่ท่าใหม่ จันทบุรี ตรวจยึด/อายัดทรัพย์คดี Forex 3-D เพิ่มเติม

เผยแพร่: 3 ก.พ. 2566 14:59 น. ปรับรุง: 9 ก.พ. 2566 11:15 น. เปิดอ่าน 2013 ครั้ง   EN
 

DSI ลงพื้นที่ท่าใหม่ จันทบุรี ตรวจยึด/อายัดทรัพย์คดี Forex-3D เพิ่มเติม

 

​​วันนี้ (วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566)  พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ สั่งการให้ ร้อยตำรวจโท เสฎฐวุฒิ สายป้อง ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 3 และ นางสาวนันท์นภัส เกยุราพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 1 พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 36/2563 สนธิกำลังกับ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 2 และกองปฏิบัติการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำหมายค้นศาลจังหวัดจันทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 14/2 ถนนศรีนวดิตถ์ ตำบลท่าใหม่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี​

​​กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำการสอบสวนคดีพิเศษที่ 36/2563 ซึ่งเป็นความผิดฐานฐานฟอกเงิน ในกรณี “การชักชวนให้ลงทุนนำเงินไป   ซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่าง ๆ (Forex) โดยเสนอผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 60-80 ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรดฟอเร็กซ์ และประกันเงินต้นที่ร่วมลงทุนร้อยละ 100 โดยมีการชักชวนผ่านทางเฟสบุ๊คชื่อ Forex-3D และบัญชี เฟสบุ๊คชื่อ Apirak Krub (นายอภิรักษ์ โกฎธิ)” ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการยึด อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้เพื่อตรวจสอบไว้ก่อนแล้วหลายรายการ ซึ่งต่อมาจากการสืบสวนขยายผล คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพบทรัพย์สิน ของนางสาวชนกวนันท์ โกฎธิ หรือ ภคมน สีลุน อดีตภรรยาของนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 60/2564 เป็นบ้านพักและที่ดินมีโฉนด ในพื้นที่อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี และยังไม่มีการยึดอายัดไว้ ซึ่งเชื่อว่าได้มาในช่วงเกิดเหตุคดี Forex-3D และคาดว่าจะมีทรัพย์สินอื่นๆ ซุกซ่อนอยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าวด้วย  
​​ผลการตรวจค้นพบทรัพย์สิน หลายรายการ คือ
​​1. บ้านหรูพร้อมที่ดินมีโฉนด เลขที่ 36964 และ เลขที่ 49745  จำนวน 1 หลัง เนื้อที่รวม จำนวน 2 ไร่ 111.2 ตารางวา
​​2.  รถเก๋ง โตโยต้า ทะเบียน 5 กค 843 กทม จำนวน 1 คัน
​​3.  เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ของแบรนด์เนม จำนวนหลายรายการ ดังนี้
- กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 29 รายการ
- ต่างหูแบรนด์เนม จำนวน 4 รายการ
- เข็มกลัดแบรนด์เนม จำนวน 4 รายการ
- แว่นตาแบรนด์เนม จำนวน 12 รายการ
- เสื้อผ้าแบรนด์เนม จำนวน 21 รายการ
- รองเท้าแบรนด์เนม จำนวน 13 รายการ
รวมทั้งหมด 83 รายการ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
 
​​4.  เงินสกุลต่างประเทศ ดังนี้
- ธนบัตรฮ่องกง (ดอลลาร์ฮ่องกง) ฉบับละ 1,000 ดอลลาร์ฯ จำนวน 7 ใบ, ฉบับละ 500 ดอลลาร์ฯ จำนวน 10 ใบ, ฉบับละ 100 ดอลลาร์ฯ จำนวน 5 ใบ, ฉบับละ 50 ดอลลาร์ฯ จำนวน 1 ใบ และ ฉบับละ 20 ดอลลาร์ฯ จำนวน 13 ใบ
- ธนบัตรเกาหลีใต้ (วอน) ฉบับละ 1,000 วอน จำนวน 2 ใบ
- ธนบัตรสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ฉบับละ 100      เดอร์แฮมฯ จำนวน 2 ใบ ฉบับละ 50 เดอร์แฮม จำนวน 2 ใบ
- ธนบัตรมาเลเซีย (ริงกิตมาเลเซีย) ฉบับละ10 ริงกิต จำนวน 1 ใบ
- ธนบัตรจีน (หยวน)  ฉบับละ 10 หยวน จำนวน 1 ใบ
- ธนบัตรลาว (กีบ) ฉบับละ 20,000 กีบ จำนวน 1 ใบ
คิดเป็นเงินไทย ทั้งหมดประมาณ  57,219.10  บาท
 
​​นอกจากนี้ ยังพบเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินและการเงินอื่นๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ได้จากการตรวจค้นกว่า 20 ล้านบาท คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้ทำการยึด อายัดไว้เพื่อตรวจสอบตามกฎหมาย และจะดำเนินการติดตามยึดอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้กระทำผิดรายอื่น ๆ     อีกต่อไป
​​กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอขอบคุณประชาชนที่ช่วยในการแจ้งเบาะแส ด้วยดีมาโดยตลอด และหากประชาชนยังมีข้อมูลหรือทราบเบาะแสในกรณีดังกล่าว หรือการกระทำความผิดอื่น สามารถแจ้งข้อมูล/เบาะแส ได้ที่เว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือติดต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ที่กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 0 2142 2831 หรือ สายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 โทร.ฟรีทั่วประเทศ​

 


 

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ