DSI ออกหมายเรียกอดีตนักการเมืองระดับชาติ กับพวก รับทราบข้อกล่าวหาตามคำสั่งอัยการสูงสุด กรณีการบุกรุกที่ดินอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เขตอำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี
เผยแพร่: 5 ม.ค. 2567 9:23 น. ปรับรุง: 5 ม.ค. 2567 9:23 น. เปิดอ่าน 38 ครั้ง วันนี้ (4 มกราคม 2567) ณ
กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ อาคาร รัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ถนนแจ้งวัฒนะ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ
ได้มีหมายเรียกนายสุนทร (สงวนนามสกุล)
กับพวก รวม 11 คน มารับทราบข้อกล่าวหาฐานร่วมกันบุกรุกเข้ายึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง
แผ้วถาง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมู่ที่ 13 ตำบลโพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม
จังหวัดปราจีนบุรี ตามคำสั่งของอัยการสูงสุด
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
หลังจากนี้จะได้มีหนังสือส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว
รวมทั้งผลการประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นรายบุคคล ไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อมีคำสั่งทางคดีต่อไป
คดีนี้สืบเนื่องมาจากคณะกรรมการคดีพิเศษ
ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 4/2555 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2555
ให้รับกรณีบุคคล/กลุ่มบุคคลกระทำการบุกรุกและออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่ หมู่ที่ 13 ตำบลโพธิ์งาม อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 22 แปลง
เนื้อที่ประมาณ 251–3–52 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 21,134,075.50 บาท (ยี่สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนสามหมื่นสี่พันเจ็ดสิบห้าบาทห้าสิบสตางค์)
ไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ
ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยรับเป็นคดีพิเศษที่
149/2555 ทางการสอบสวนปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้อง ในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 149/2555
ไปดำเนินการตามกฎหมาย ในส่วนของการกระทำความผิดฐานบุกรุกของราษฎร
กรมสอบสวนคดีพิเศษได้สืบสวนขยายผลและแยกสำนวนการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 136/2558 มีการดำเนินคดีกับนายสุนทรฯ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
กับพวก รวม 13 คน ในความผิดฐานยึดถือครอบครองพื้นที่อุทยานแห่งชาติ อันเป็นการสมคบกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายและนำเอาโฉนดที่ดินไปใช้เพื่อยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติซึ่งภายหลังมีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พ.ศ.2561 บังคับใช้
กำหนดให้คดีที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกันกับคดีที่คณะกรรมการ
ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่ ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 136/2558
ไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อรวมดำเนินการกับคดีพิเศษที่ 149/2555
ที่ส่งไปก่อนหน้านี้ ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนคืนมาให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป
พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงรับเป็นคดีพิเศษที่ 2/2562 และทำการสอบสวนจนเสร็จสิ้น
เสนอสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 12 คน และเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง
1 คน เนื่องจากถึงแก่ความตาย
ไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ล่าสุดอัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว
มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นรายบุคคล
ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสือแจ้งให้กรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดำเนินการประเมินมูลค่าความเสียหายและได้รับผลการประเมินเรียบร้อยแล้ว
และให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายสุนทร (สงวนนามสกุล) กับพวก
ตามบทกฎหมายที่แก้ไขใหม่ ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ถึงแก่ความตาย
สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปตามกฎหมาย จึงมีหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 11 คน
มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้