DSI ร่วมกับกรมศุลกากร และ สตช. ยึดบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ กว่า 120,000 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 21 ล้านบาท
เผยแพร่: 20 มี.ค. 2568 14:26 น. ปรับปรุง: 20 มี.ค. 2568 14:53 น. เปิดอ่าน 123 ครั้งDSI ร่วมกับกรมศุลกากร และ สตช. ยึดบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศกว่า 120,000 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 21 ล้านบาท

ตามนโยบายรัฐบาลโดยการนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานภาครัฐบูรณาการความร่วมมือ เดินหน้าปราบปราม หยุดยั้งการลักลอบผลิต นำเข้าหรือจำหน่ายเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิด โดยให้เร่งดำเนินการจับกุมและเร่งสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นั้น
วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม 2568) นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันลงพื้นที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง โดยมี นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นายดิเรก คชารักษ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายวุฒิ เร่งประดุงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ให้การต้อนรับ การลงพื้นที่ในครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับกรมศุลกากรและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันตรวจยึดสินค้าผ่านแดนในตู้สินค้าหมายเลข TSSU5129398 BSIU9619966 TXGU5418901 และ JXLU7999350 โดยตรวจพบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง รวมทั้งสิ้น 121,490 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 21,868,200 บาท อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 และประกาศกรมศุลกากรที่ 185/2564 เรื่อง พิธีการศุลกากรว่าด้วยการผ่านแดนทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ข้อ 6 ซึ่งกรณีดังกล่าวเนื่องมาจากการสืบสวนสอบสวนขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาภายในราชอาณาจักรภายใต้การอำนวยการของ นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการกองคดีภาษีอากร ได้สั่งการให้ พันตำรวจตรี กล้าหาญ คล่องพยาบาล รองผู้อำนวยการกองคดีภาษีอากร นายปัณฑ์พิสิษฐ์ วิสาลเสสถ์ ผู้อำนวยการส่วนคดีภาษีอากร 2 พร้อมคณะ เลขสืบสวนที่ 214/2567 พบว่ามีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยแต่ผู้นำเข้าไม่ดำเนินการทางพิธีการของศุลกากรจึงได้ทำการเปิดตู้สินค้าเพื่อตรวจสอบ และพบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง ซุกซ่อนปะปนกับสินค้าอื่น
ทั้งนี้ ของกลางที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว กรมศุลกากรจะได้ประเมินราคาเพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินคดี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนและขยายผลไปยังตัวการ ผู้ใช้และผู้สนับสนุน ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการพิเศษอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนต่อไป



























ภาพจากแฟ้มข่าว
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
- S__21725216.jpg
- S__21725218.jpg
- S__21725219_0.jpg
- S__21725221_0.jpg
- S__21725222_0.jpg
- S__21725224_0.jpg
- S__21725227_0.jpg
- S__21725228_0.jpg
- S__21725231_0.jpg
- S__21725235_0.jpg
- S__21725234_0.jpg
- S__21725236_0.jpg
- S__21725237_0.jpg
- S__21725238_0.jpg
- S__21725240_0.jpg
- S__21725241.jpg
- S__21725243.jpg
- S__21725242.jpg
- S__21725292_0.jpg
- S__21725294_0.jpg
- S__21725281_0.jpg
- S__21725282_0.jpg
- S__21725284_0.jpg
- S__21725287_0.jpg
- S__21725290_0.jpg
- S__21725291_0.jpg
- S__21725280_0.jpg
- S__21725276_0.jpg
- S__21725270_0.jpg
- S__21725272_0.jpg
- S__21725273_0.jpg
- S__21725276_0.jpg
- S__21725278_0.jpg
- S__21725277_0.jpg