DSI ทลายเหมืองบิทคอยน์เถื่อน ในพื้นที่ท่าม่วง กาญจนบุรี พบเครื่องขุดกว่า 300 เครื่อง ขโมยไฟหลวง-ทำรัฐเสียหายปีละกว่า 100 ล้าน
เผยแพร่: 9 ต.ค. 2567 18:47 น. ปรับรุง: 10 ต.ค. 2567 18:06 น. เปิดอ่าน 2511 ครั้ง EN วันนี้ (วันพุธที่ 9 ตุลาคม 2567) พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอก เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นายธนะ โชคพระสมบัติ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคกลาง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่ตรวจค้นอาคารพาณิชย์ต้องสงสัยในพื้นที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า เพื่อใช้เป็นจุดทำเหมืองขุดเงินดิจิทัล จำนวน 13 จุด ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ ปีละกว่า 100 ล้านบาท
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคำร้องเรียนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคกลาง) ว่าพบการลักลอบตั้งเหมืองขุดเงินดิจิทัลโดยเฉพาะบิทคอยน์อย่างผิดกฎหมาย โดยขอให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ
จึงได้มอบหมายให้กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบทำการสืบสวน ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีเครือข่ายผู้ลักลอบกระทำความผิด รวมตัวเช่าบ้านและอาคารพาณิชย์กว่า 13 แห่ง กระจายตัวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี มีการนำเข้าเครื่องมือจากต่างประเทศ และลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า ส่งผลให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากและกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงได้ขอหมายค้นเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบเครื่องขุดสกุลเงินดิจิทัล จำนวน 300 เครื่อง และควบคุมตัวนายกฤษดา (สงวนนามสกุล) ซึ่งรับว่าเป็นเจ้าของและผู้แล (แอดมิน) ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายธนะฯ ผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกล่าว การขุดเหมืองบิทคอยน์ดังกล่าว จะใช้กระแสไฟฟ้าปริมาณมากขนาดเทียบเท่ากับโรงงานอุตสาหกรรม แต่มีการลักลอบดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมการระบุตัวเลขจากมิเตอร์ไฟฟ้าให้มีจำนวนตัวเลขน้อยกว่าความเป็นจริง และจากการตรวจสอบประวัติการชำระค่าไฟฟ้าบ้านเป้าหมายแรก มีเครื่องขุดเงินดิจิทัล 12 เครื่อง กำลังเครื่องละ 3.6 กิโลวัตต์ พบว่าเครือข่ายดังกล่าว จ่ายค่าไฟฟ้าเพียง 100 - 400 บาทต่อเดือน ทั้งที่ค่าไฟจริง เมื่อคำนวณตามกำลังของอุปกรณ์ จะประมาณ 150,000 บาท ทำให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สูญเสียรายได้จำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการนำส่งรายได้ต่อรัฐ
จึงได้ประสานขอความร่วมมือกรมสอบสวนคดีพิเศษในการปราบปรามเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ พันตำรวจตรี ยุทธนาฯ กล่าวว่า การกระทำผิดในเรื่องนี้ นอกจากเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคไฟฟ้ารายอื่นแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการนำส่งรายได้แผ่นดินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่นำส่งรายได้แผ่นดินเพื่อจะนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ และเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 และมาตรา 335(1) และอาจมีความผิดอาญาอื่นที่เกี่ยวข้องอีกหลายฐานความผิด ซึ่งหากพบความผิดที่เข้าข่ายความผิด ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เพิ่มเติม ก็จะรับเป็นคดีพิเศษต่อไป
กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของและผู้พักอาศัยในอาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ช่วยกันสังเกตพื้นที่โดยรอบ หากพบสถานที่น่าสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที และสำหรับกรณีที่อาจมีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเกี่ยวข้อง กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเพื่อรักษาความปลอดภัยทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
- IMG_4462.jpeg
- IMG_4463.jpeg
- IMG_4464.jpeg
- IMG_4467.jpeg
- IMG_4466.jpeg
- IMG_4465.jpeg
- IMG_4470.jpeg
- IMG_4469.jpeg
- IMG_4468.jpeg
- IMG_4473.jpeg
- IMG_4472.jpeg
- IMG_4471.jpeg
- IMG_4476.jpeg
- IMG_4475.jpeg
- IMG_4474.jpeg
- IMG_4479.jpeg
- IMG_4478.jpeg
- IMG_4477.jpeg
- IMG_4482.jpeg
- IMG_4481.jpeg
- IMG_4480.jpeg
- IMG_4485.jpeg
- IMG_4484.jpeg
- IMG_4483.jpeg
- IMG_4488.jpeg
- IMG_4487.jpeg
- IMG_4486.jpeg
- IMG_4491.jpeg
- IMG_4490.jpeg
- IMG_4489.jpeg
- IMG_4494.jpeg
- IMG_4493.jpeg
- IMG_4492.jpeg
- IMG_4497.jpeg
- IMG_4496.jpeg
- IMG_4495.jpeg
- IMG_4500.jpeg
- IMG_4499.jpeg
- IMG_4498.jpeg
- IMG_4503.jpeg
- IMG_4502.jpeg
- IMG_4501.jpeg
- IMG_4506.jpeg
- IMG_4505.jpeg
- IMG_4504.jpeg