“ดีเอสไอ จับกุมผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม มูลค่าความเสียหายเกือบ 20 ล้านบาท”
เผยแพร่: 24 ก.ค. 2564 19:41 น. ปรับรุง: 1 ต.ค. 2564 14:36 น. เปิดอ่าน 2994 ครั้ง EN“ดีเอสไอ จับกุมผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม มูลค่าความเสียหายเกือบ 20 ล้านบาท”
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอย และการข่าว ได้ทำการจับกุมนายสุเมธ แซ่อุ้ย ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีพิเศษที่ 10/2550 และคดีพิเศษที่ 52/2550 ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 894/2551 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2551 และหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ ส.1767/2551 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2551 ในความผิดฐานร่วมกับพวกใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม (ซึ่งเป็นบัตรที่ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด)
คดีพิเศษทั้งสองคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อระหว่างวันที่ 20 กันยายน 2549 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2549 นายสุเมธ แซ่อุ้ย ผู้ต้องหากับพวกได้ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม (บัตรเครดิต) ผ่านเครื่องรูดบัตรของร้านบิวตี้เฮ้าส์ หรือร้านพลอย โดยออกอุบายเพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องรับรูดบัตรเครดิตจาก "ร้านพลอย" ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “ร้านบิวตี้เฮ้าส์” จากนั้นนำบัตรเครดิตปลอม นำมารูดผ่านเครื่องรับรูดบัตรเครดิตดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ธนาคารไทยพาณิชย์โอนเงินให้ตามธุรกรรมจากบัตรเครดิตที่เกิดขึ้นดังกล่าว จากนั้น มีการโอนเงินจากบัญชีของร้านพลอยหรือบิวตี้เฮ้าส์เข้าบัญชีที่กลุ่มผู้ต้องหาได้วางแผนไว้ การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามมาตรา 269/4 ประกอบมาตรา 269/7 และมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต่อมา กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับกรณีดังกล่าวไว้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 10/2550 และคดีพิเศษที่ 52/2550 และได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลจังหวัดมีนบุรี และศาลจังหวัดพระโขนง ออกหมายจับนายสุเมธ แซ่อุ้ย ตามฐานความผิดข้างต้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สืบสวนจนทราบว่านายสุเมธฯ ได้พำนักอยู่ที่ บ้านเหล่าเลิง หมู่ที่ 2 ตำบลไร่ขี อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ จึงได้เข้าทำการจับกุมเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความมุ่งมั่นในการสืบสวน สอบสวน ป้องกัน และปราบปราม อาชญากรรมพิเศษ เพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีมาตรการการปฏิบัติงานภายในที่พัก 100% โดยให้เป็นไปตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) หากประชาชนมีความจำเป็นต้องติดต่อราชการกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ท่านสามารถใช้การติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.dsi.go.th แบนเนอร์ “ร้องเรียน ร้องทุกข์ แจ้งเบาะแส” เพื่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
****************************************************
ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2564