DSI จับกุมผู้ทำบัญชีร่วมกับบริษัทใช้ใบกำกับภาษีปลอมมาเครดิตภาษี ทำรัฐเสียหายกว่า 450 ล้านบาท หลังไม่มาพบพนักงานอัยการตามกำหนด
เผยแพร่: 3 ก.ค. 2567 10:32 น. ปรับรุง: 3 ก.ค. 2567 10:33 น. เปิดอ่าน 15037 ครั้งDSI จับกุมผู้ทำบัญชีร่วมกับบริษัทใช้ใบกำกับภาษีปลอมมาเครดิตภาษี ทำรัฐเสียหายกว่า 450 ล้านบาท
หลังไม่มาพบพนักงานอัยการตามกำหนดนัด
วันนี้ (วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2567) เวลาประมาณ 08.15 น. ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 ได้ร่วมกันจับกุม นายกิจการ (ผู้ต้องหา) ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1304/2567 ลงวันที่28 มีนาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม กระทำการใด โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน และเจตนานำใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี ตามประมวลรัษฎากร โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณริมถนน แขวงพลับพลา เขตวังทองหลางกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา และสิทธิตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญาแล้ว รวมทั้งแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้ผู้ต้องหาได้รับทราบ และบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 รวมทั้งได้แจ้งพนักงานอัยการผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการกรมการปกครอง(ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร)จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหากลับกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อส่งมอบตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 78/2566 ของกองคดีภาษีอากร โดยนายกิจการฯ (ผู้ต้องหา) เป็นผู้ทำบัญชี ให้กับ บริษัท วราทรัพย์ สตีล 1986 จำกัด ซึ่งได้ใช้ใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายมาขอเครดิตภาษี
จากกรมสรรพากร ระหว่างเดือนภาษี เมษายน 2556 – ธันวาคม 2557 รวม 19 กระทง มูลค่าความเสียหาย 449,810,513.00 บาท โดยก่อนหน้านี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษไปยังพนักงานอัยการ และมีความเห็นควรสั่งฟ้อง แต่นายกิจการฯ (ผู้ต้องหา) ไม่มาพบพนักงานอัยการตามกำหนดนัดพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงดำเนินการขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญาและได้จับกุมตัวได้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองคดีภาษีอากรจึงนำตัวไปส่งตัวยังพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เพื่อนำตัวไปฟ้องต่อศาลอาญาในวันเดียวกัน
ทั้งนี้การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชาจัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับโดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดอายุความเพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป