DSI ลงพื้นที่ทำการสืบสวน กรณี การบุกรุกป่าและตัดไม้ในพื้นที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส

เผยแพร่: 18 มี.ค. 2564 14:10 น. ปรับรุง: 21 เม.ย. 2564 15:13 น. เปิดอ่าน 2460 ครั้ง   EN
 

DSI ลงพื้นที่ทำการสืบสวน 
กรณี การบุกรุกป่าและตัดไม้ในพื้นที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส

เมื่อวันพุธที่ 17 มีนาคม 2564 พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะกำกับดูแล และ นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ได้มอบหมายให้ นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปพ.จชต.) ลงพื้นที่ทำการสืบสวน กรณี การบุกรุกตัดไม้ แผ้วถาง และยึดถือครอบครองป่าและออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายในพื้นที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ตามเลขสืบสวนที่ 70/2564

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจาก ที่ทำการทางยุทธวิธี สำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (ทก.ยว. กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้เปิดยุทธการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ และได้ประสานข้อมูลกับศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเข้าดำเนินการ จากการตรวจสอบข้อมูลร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร (ทก.ยว.กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนราธิวาส สาขารือเสาะ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรศรีสาคร พบข้อเท็จจริงว่า ในพื้นที่บริเวณดังกล่าว กรมที่ดิน ได้มีคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3ก) เลขที่ 321-370 ,3742399 และ 542-553 ระหว่างรูปถ่ายทางอากาศหมายเลข 5321 IV แผนที่ 161 ตำบลเชิงคีรี อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส จำนวน 88 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 1,500 ไร่ เนื่องจากหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3ก) ดังกล่าวออกตามโครงการเดินสำรวจออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3ก) ในปีงบในปีงบประมาณ 2537 โดยไม่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากได้ออกในบริเวณพื้นที่ที่เป็นเขาหรือภูเขาและมีความลาดชันเกินกว่า 35% ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2528 เห็นชอบด้วยนโยบายป่าไม้แห่งชาติ กำหนดพื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไป ไว้เป็นพื้นที่ป่าไม้โดยไม่อนุญาตให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน 

จากกรณีดังกล่าวอาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดินและกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในบัญชีท้ายประกาศพระราชบัญญัติการสอบสวนพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และตามประกาศ กคพ. (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงและประมวลเรื่องเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่ามีเหตุและมีเงื่อนไขที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

************************************************

ลงวันที่ 18 มีนาคม 2564

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ