DSI คาด ทำลายหมูเถื่อน 25 - 29 กันยายน นี้ กำหนดเส้นทาง จากท่าเรือแหลมฉบังสู่บ่อทำลายจังหวัดสระแก้ว

DSI คาด ทำลายหมูเถื่อน 25 - 29 กันยายน นี้ กำหนดเส้นทาง จากท่าเรือแหลมฉบังสู่บ่อทำลายจังหวัดสระแก้ว

            เมื่อวันพุธที่ 13 กันยายน 2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 59/2566 คดีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และท่าเรือแหลมฉบัง ประชุมหารือและมีมติในเรื่องการทำลายชิ้นส่วนหมูและเนื้อหมู ซากหมู ที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรดังกล่าว จำนวน 161 ตู้ ในพื้นที่ทำลาย ณ แปลงหญ้าศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ซึ่งจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 5 วัน โดยกำหนดให้มีการขนย้ายซากหมูเพื่อนำไปทำลาย คาดว่าเป็นช่วงระหว่างวันที่ 25 - 29 กันยายน 2566 นี้

            ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดเส้นทางจากท่าเรือแหลมฉบังสู่บ่อทำลาย ดังนี้

1. เดินทางออกจากท่าเรือฯ ใช้ถนนหมายเลข ชบ.3009 มุ่งหน้า ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

2. ถึงเมกาโฮม บ่อวิน (ด้านซ้าย) เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 331

3. ใช้เส้นทางถนนหมายเลข 331 มุ่งหน้าอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าสู่ถนน 304 จนถึงสะพานต่างระดับแยกเขาหินซ้อน

4. ขึ้นสะพานต่างระดับแยกเขาหินซ้อน เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 359 ขับตรงไป จนถึงแยกสระขวัญ ตำบลสระขวัญ อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว

5. เลี้ยวขวาที่แยกสระขวัญ เข้าสู่ถนนหมายเลข 317 ขับตรงไปตลอดจนถึงตำแหน่งร้าน 69 จุ่มแซ่บ อำเภอ วังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว

6. เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนหมายเลข 3021 ไปถึงสามแยกตัดกับถนนหมายเลข 3395

7. เลี้ยวขวา เข้าสู่ถนนหมายเลข 3395 ขับตรงไปตลอด จนผ่านสำหนักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สระแก้ว

8. จากศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์สระแก้วอีกประมาณ 800 เมตร พบซอยถนนลูกรัง ซอยแรกด้านซ้ายของถนน

9. เลี้ยวซ้ายเข้าซอยถนนลูกรัง (ถนนเส้นแบ่งจังหวัดสระแก้วและจังหวัดจันทบุรี ซึ่งติดกับรั้วแปลงหญ้าของศูนย์วิจัยฯ) ประมาณ 1 กิโลเมตร พบสถานที่ฝังทำลายซากด้านซ้ายมือ

            กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอแนะนำประชาชนผู้สัญจรหลีกเลี่ยงถนนเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากอาจเกิดสภาพการจราจรติดขัด ซึ่งหากมีความชัดเจนในเรื่องวัน และเวลา กรมสอบสวนคดีพิเศษจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบอีกครั้ง ผ่านเว็บไซต์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ www.dsi.go.th  และ Facebook : DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ