รมว.ยุติธรรม แถลงการขยายผลการสอบสวนคดีแชร์ Forex-3D และการให้ความช่วยเหลือประชาชนของศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข

เผยแพร่: 2 ม.ค. 2563 12:38 น. ปรับรุง: 2 ม.ค. 2563 12:48 น. เปิดอ่าน 2915 ครั้ง  
 

รมว.ยุติธรรม แถลงการขยายผลการสอบสวนคดีแชร์ Forex-3D
และการให้ความช่วยเหลือประชาชนของศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข


ในวันอังคารที่ 10 ธันวาคม 2562 เวลา 10.30 น. ณ บริเวณด้านหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงผลการดำเนินงานของศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข ใน 3 กรณี ดังนี้

        1. การขยายผลการสอบสวนคดีแชร์ Forex-3D โดยการยึดรถหรูจำนวน 7 คัน
คดีพิเศษที่ 153/2562 กรณีแชร์ FOREX 3D
- กรณีการดำเนินการทางการสอบสวน
ปรากฏจำนวนผู้เสียหายที่ลงทะเบียนแจ้งต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อเข้าให้ปากคำ จำนวนทั้งหมด 11,565 ราย มูลค่าความเสียหาย 1,585,370,628.64 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2562 เวลา 16.30 น.) โดยปัจจุบันมีผู้เสียหายเข้ามาให้ถ้อยคำจำนวน 1,739 ราย ซึ่งจะสิ้นสุดการเข้าให้ปากคำ ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้
- กรณีการสืบสวนเพื่อติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องหรือได้มาจากการกระทำความผิด
สืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2562 เวลาประมาณ 18.00 น. กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ได้แจ้งข้อมูลให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษตามที่ได้มีการประสานข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพย์สินที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวการสำคัญในคดีต่อมาในวันเดียวกัน เวลา 20.00 น. ชุดปฏิบัติการสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าดำเนินการตรวจยึดรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 7 คัน รวมมูลค่าประมาณ 43 ล้านบาท ที่กลุ่มผู้กระทำความผิดได้นำไปซุกซ่อนไว้ที่บริเวณถนนสุขุมวิทซอย 24 ได้แก่
1. รถยนต์มาเซราติ SUV สีดำราคาประมาณ 7 ล้านบาท
2. รถยนต์พอร์ช Porsch Boxter ราคาประมาณ 5 ล้านบาท
3. รายยนต์เฟอร์รารี่ สเดอร์ราคาประมาณ 18 ล้านบาท
4. รถยนต์ฟอร์ด มัสแตง (3 คัน)ราคาประมาณ 10 ล้านบาท
5. รถยนต์โตโยต้า เวลไฟร์ราคาประมาณ 3 ล้านบาท
กรณีดังกล่าวเป็นการการปฏิบัติการตรวจค้นและยึดทรัพย์เป็นครั้งที่ 3 โดยที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการยึดทรัพย์ มาแล้วจำนวน 2 ครั้ง โดย
ครั้งที่ 1 เป็นการเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์เป้าหมายจำนวน 11 จุด ในพื้นที่ กทม.โดยยึดอายัดทรัพย์มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท (ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562)
ครั้งที่ 2 เป็นการเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์เป้าหมายจำนวน 4 จุด ในพื้นที่ กทม.โดยยึดอายัดทรัพย์มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท (ในวันที่ 4 ธันวาคม 2562)
รวมมูลค่าในการยึดอายัดทรัพย์ทั้งสิ้น ขณะนี้รวมประมาณ 743 ล้านบาท

        2. กรณีจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้เสียหายจากกระสุนปืนปริศนาเสียชีวิตขณะนั่งรถตู้โดยสารในจังหวัดฉะเชิงเทรา
สืบเนื่องจากที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2562 เวลาประมาณ 00.20 น. ได้เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์ไล่ยิงกันที่บริเวณถนนสายบ้านสร้าง - พนมสารคาม เป็นเหตุให้นางสาวอริสา ปราบภัย อายุ 27 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ถูกกระสุนปืนปริศนาเข้าที่บริเวณชายโครงได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนั่งรถตู้โดยสารจาก จ.บุรีรัมย์ เพื่อกลับกรุงเทพ และได้ถูกส่งตัวไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และต่อมาได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 01.25 น. นั้น  กระทรวงยุติธรรมได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเยียวยาให้กับผู้เสียหาย จากการกระทำความผิดทางอาญา โดยที่ตนมิได้มีส่วนในการกระทำความผิด จึงได้เร่งรัดให้มีการจ่ายค่าตอบแทนให้กับครอบครัวซึ่งเป็นทายาทของนางสาวอริสา ปราบภัย ผู้เสียหาย เป็นเงินจำนวนรวม 110,000 บาท โดยแบ่งเป็น ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย จำนวน 50,000 บาท  ค่าจัดการศพ 20,000 บาท  และค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนตามกฎหมายต่อไป 

    3. นิติวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์สารเสพติดในเส้นผมชายขับสิบล้อที่ขอความเป็นธรรมกรณีถูกจับในคดียาเสพติดตามที่นายโสภณ วงษ์สวัสดิ์ คนขับรถบรรทุก
ผู้ร้องได้มีหนังสือขอความเป็นธรรม ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับกุม โดยกล่าวหาว่ามียาบ้าไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 1 เม็ด ทั้งนี้ ผู้ร้องเชื่อว่าตนถูกกลั่นแกล้ง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562ในเรื่องนี้ได้มอบหมายให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ดำเนินการตรวจพิสูจน์สารเสพติดจากเส้นผมของผู้ร้อง เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าผู้ร้องไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยผู้ร้องตกลงยินยอมให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว เทคโนโลยีในการตรวจพิสูจน์สารเสพติดจากเส้นผม สามารถระบุได้ว่าบุคคลนั้นๆ เคยใช้สารเสพติดมาก่อนหรือไม่ โดยการตรวจดังกล่าว สามารถตรวจพบสารเสพติดได้ภายหลังการใช้สารเสพติด มาเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน  เนื่องจากเมื่อยาหรือสารเสพติดเข้าสู่ร่างกายจะไปสะสมในแกนกลางของเส้นผม และจะคงทนอยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน ยากต่อการที่จะขจัดสารเหล่านี้ออกไปจากเส้นผมได้ และการตรวจนี้ยังสามารถตรวจสารเสพติดได้คราวเดียวกันถึง 26 ชนิด ครอบคลุมถึง กลุ่มยาบ้า ยาเค เฮโรอีน กัญชา ฯลฯ รวมถึงยารักษาโรคที่ถูกนำมาทดแทนยาเสพติดได้ เช่น ทรามาดอลผลการตรวจพิสูจน์สารเสพติดในเส้นผมของ นายโสภณ วงษ์สวัสดิ์ ตรวจพบสารไมทราไจนิน (Mitragynine) ซึ่งเป็นสารอัลคาลอยด์ในพืชกระท่อม มีฤทธิ์ในการกดประสาท และระบุได้ว่ามีการเสพพืชกระท่อมในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา (ทั้งนี้ เนื่องจากเส้นผมของผู้ร้องยาวประมาณ 1.2 เซนติเมตร) แต่ไม่พบการเสพสารเสพติดชนิดอื่นๆ ในช่วงเวลา 1 เดือนนี้กระทรวงยุติธรรมจะได้แจ้งผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าวให้ผู้ร้องทราบต่อไป

 

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ