สืบสวนสะกดรอย DSI จับกุมผู้ต้องหาร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม เสียหายกว่า 10 ล้านบาท

สืบสวนสะกดรอย DSI จับกุมผู้ต้องหาร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม เสียหายกว่า 10 ล้านบาท 

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้ทำการจับกุมนายก้องชาติ บำรุงไทย ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีพิเศษที่ 10/2550 ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ 544/2551 ลงวันที่14 มีนาคม 2551 ในความผิดฐานร่วมกับพวก รวม 5 ราย พฤติการณ์ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม (ซึ่งเป็นบัตรที่ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด)

คดีพิเศษนี้ สืบเนื่องจากเมื่อระหว่างวันที่ 19 กันยายน 2549 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2549 นายก้องชาติ บำรุงไทย ผู้ต้องหากับพวก ร่วมกับนายสุเมธ  แซ่อุ้ย ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้จับกุมตัวก่อนหน้านี้ ได้ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม (บัตรเครดิต) รูดผ่านเครื่องรับรูดบัตรเครดิตของร้านเชิดบ้านแอร์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอกกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โอนเงินให้ตามธุรกรรมจากบัตรเครดิตที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนหลายครั้ง มีมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท จากนั้น มีการโอนเงินจากบัญชีของร้านเชิดบ้านแอร์เข้าบัญชีที่กลุ่มผู้ต้องหาได้วางแผนไว้ การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามมาตรา 269/4 ประกอบมาตรา 269/7 และมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับกรณีดังกล่าวไว้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 10/2550 และได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับนายก้องชาติ บำรุงไทย ตามฐานความผิดข้างต้น 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สืบสวนจนทราบว่า นายก้องชาติฯ ได้พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 108/1 ถนนพันศรโยธา ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี จึงได้เข้าทำการจับกุมเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำตัวฝากขัง ณ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ภายใต้มติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.ยธ) ที่กำหนดให้เปลี่ยนแปลงสถานที่ควบคุมผู้ต้องหาเข้าใหม่จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความมุ่งมั่นในการสืบสวน สอบสวน ป้องกัน และปราบปราม อาชญากรรมพิเศษ เพื่ออำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีมาตรการการปฏิบัติงานภายในที่พัก 100% โดยให้เป็นไปตามข้อกำหนดตามความในมาตรา9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 28) หากประชาชนมีความจำเป็นต้องติดต่อราชการกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ท่านสามารถใช้การติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.dsi.go.th แบนเนอร์ “ร้องเรียน ร้องทุกข์ แจ้งเบาะแส” เพื่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

************************************************

ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2564