รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับฟังสรุป แจ้งผลการตรวจค้น-จับกุม เครือข่าย “โกฟุก” ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ชื่นชมเจ้าหน้าที่ - กำชับดำเนินการตามกฎหมายทำความจริงให้ปรากฏ

เผยแพร่: 5 ก.พ. 2567 16:21 น. ปรับรุง: 7 ก.พ. 2567 15:08 น. เปิดอ่าน 2483 ครั้ง  
 

           วันนี้ (วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อรับทราบการรายงานผลการปฏิบัติ กรณี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายเครือข่าย “โกฟุก” จำนวน 27 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและหลายจังหวัด โดยมีพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ 
รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา ร่วมกันชี้แจง พร้อมนำตรวจดูตัวอย่างทรัพย์สินบางรายการที่มีการตรวจยึด หลังจากนั้น พันตำรวจเอกทวีฯ กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ และได้กำชับการปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

            กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสืบสวน กรณีมีเบาะแสการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กรณีปรากฏเบาะแสว่ามีกลุ่มบุคคลภายใต้เครือข่าย “โกฟุก” นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์หลอกลวงให้ประชาชนเข้าซื้อรางวัลเลขท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ภายใต้เว็บไซต์หลายเว็บไซต์ เช่น ร่ำรวยร้อยล้าน นพเก้า นาคราช ชอบหวย ล๊อตโต้เอ็มเอ็ม ดีเอ็นเอ เยเย่ และอื่นๆ โดยอ้างอิงผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ปรากฏข้อความในหน้าเพจหรือเว็บไซต์ว่า หวยรัฐบาลไทยที่ประกาศหรือโฆษณา การซื้อหวย ข้อความดังกล่าวไม่ใช่ข้อความของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล อันถือเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ รวมทั้งนำผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ มาประกอบในการเชิญชวนให้มีการเล่นการพนัน เบื้องต้นพบเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 1,000 ล้านบาท จึงรับไว้ทำการสอบสวนคดีพิเศษที่ 10/2567 ทางการสอบสวนมีการออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 18 คน และนำไปสู่ปฏิบัติการตรวจค้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อพบและจับกุมบุคคลตามหมายจับ รวมทั้งตรวจค้นหาพยานหลักฐานและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ซึ่งในวันดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คน จาก 18 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างหลบหนี ได้มอบหมายให้ศูนย์สืบสวนและสะกดรอย กรมสอบสวนคดีพิเศษ ติดตามจับกุมต่อไปและในการตรวจค้น สามารถยึดทรัพย์สินได้จำนวนมาก รวมกว่า 14 ประเภท มูลค่าหลายร้อยล้านบาท โดยทรัพย์สินที่สำคัญ เช่น เงินสด 55 ล้านบาท ทองคำ น้ำหนัก 350 บาท โฉนดที่ดิน-หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด 8 ฉบับ รถยนต์ 8 คัน พระเครื่อง 97 รายการ นาฬิกาหรู 47 เรือน อาวุธปืน 10 กระบอก กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าแบรนด์เนม กว่า 400 รายการ ซึ่งในวันนี้ พันตำรวจเอกทวีฯ ได้เดินทางมารับฟังรายงานผลการปฏิบัติงาน โดยกล่าวชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษทุกนายที่ร่วมปฏิบัติงานอย่างมุ่งมั่นเสียสละ พร้อมกำชับให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนและสอบสวนอย่างรอบคอบ รวมรวมพยานหลักฐานในทุกมิติเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ

             อนึ่ง กรณีการสร้างหลักฐานการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปนอกประเทศที่เป็นเท็จแล้วนำมาขอคืนภาษี โดยเบื้องต้นพบว่ามีการดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ทำให้รัฐสูญเสียภาษีนับ 10,000 ล้านบาท และจะได้มีการสืบสวนขยายผลต่อไป



เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ