ไม่รอด..DSI ร่วมจับกุมตัว “นัตตี้ เน็ตไอดอล” หลอกเทรด Forex คาสนามบิน หลังกบดานอินโดฯ กว่า 2 ปี
เผยแพร่: 25 ต.ค. 2567 16:56 น. ปรับรุง: 28 ต.ค. 2567 14:13 น. เปิดอ่าน 862 ครั้ง EN วันนี้ (วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2567) เวลาประมาณ 14.00 น. ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ พลตำรวจโท ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรี ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รองผู้บังคับบัญชาสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พลตำรวจตรี อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พลตำรวจตรี เชิงรณ ริมผดี ผู้บัญชาการกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 และพลตำรวจตรี ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกตำรวจ แถลงข่าว
การจับกุมตัวนางสาวสุชาตา หรือนัตตี้ เน็ตไอดอลชื่อดัง และนางธานิยา ซึ่งเป็นแม่ของนัตตี้ โดยในวันนี้ เวลาประมาณ 13.40 น. นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว และเจ้าหน้าที่กองกำกับการท่าอากาศยานดอนเมือง ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวสุชาตา หรือนัตตี้ หรือลีอาห์ และนางธานิยา หรือนางศรัญญา สองแม่ลูก ผู้ต้องหาในคดีพิเศษ
ที่ 294/2565 ซึ่งต้องหาว่าร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพมหานคร หลังจากหลบหนีการจับกุมในคดีหลอกลวงให้เทรด Forex ไปยังประเทศอินโดนีเซีย
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และร้อยตำรวจเอก ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศได้รับการประสานแจ้งจากฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตไทย สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ว่ามีชาวไทย 2 ราย
ถูกควบคุมตัวในความผิดกฎหมายคนเข้าเมือง ผลการตรวจสอบพบประวัติบุคคล พบว่า นางสาวสุชาตา และนางธานิยา เป็นผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 294/2565 อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมตัว และมีประวัติหมายจับคดีอาญาในความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกด้วย จึงรายงานให้ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งรับทราบสถานการณ์มาโดยตลอด ทราบและได้สั่งการให้ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบร่วมกับกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ประสานงานร่วมบูรณาการกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
และกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการประสานกับทางการอินโดนีเซีย เพื่อขอความร่วมมือให้พิจารณาผลักดันผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ กลับมายังประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ต่อมาเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2567 ทางการอินโดนีเซีย ได้เนรเทศผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เดินทางจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยเครื่องบินมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยมีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันรับตัวผู้ต้องหา ควบคุม และส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ
เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยผู้ต้องหาทั้งสองคน เป็นผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 294/2565 มีพฤติการณ์เชิญชวนให้ประชาชน ร่วมลงทุนเทรด Forex ผ่านแอปพลิเคชัน IQ Option ต่อมาไม่จ่ายผลตอบแทนและไม่คืนเงินลงทุน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 ได้โอนสำนวนการสอบสวนและหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองรายมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 พร้อมอายัดทรัพย์และส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แล้ว จำนวน 23 รายการ มูลค่าประมาณ 16,688,165 บาท ในส่วน กรมสอบสวนคดีพิเศษได้อายัดทรัพย์เพิ่มจำนวน 3 รายการ และอยู่ระหว่างสืบทรัพย์เพิ่มเติม มีจำนวนผู้เสียหาย 438 ราย มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 239,463,716.80 บาท เหตุเกิดเมื่อระหว่างเดือน สิงหาคม 2564
ถึงเดือน พฤษภาคม 2565