DSI ให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อต้านการก่อการร้าย (CTP) กองบัญชาการตำรวจนครบาล นิว สกอตแลนด์ ยาร์ด ศึกษาดูงานการต่อต้านการก่อการร้าย

     วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มอบหมายให้ กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ โดยนายสมฤกษ์ ตั้งคารวคุณ รองผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศพร้อมด้วย พันตำรวจตรี สุทศธวรรศ อารีย์รัตนะนคร ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ และคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับนายเจฟฟ์ ทาเชาเออร์ (Geoff Tachauer) ผู้กำกับการสืบสวน และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อต้านการก่อการร้าย (Counter-Terrorism Policing: CTP) กองบัญชาการตำรวจนครบาล นิว สกอตแลนด์ ยาร์ด ในโอกาสที่มาศึกษาดูงาน ณ กรมสอบสวนคดีพิเศษ            รองผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ได้กล่าวต้อนรับและมีความยินดีที่หน่วยงาน CTP มีความสนใจในภารกิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเป็นโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน อันเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงาน โดยคณะผู้ศึกษาดูงานได้รับชมวิดีทัศน์แนะนำกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้แทนกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศได้บรรยายถึงโครงสร้างและภารกิจของกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติและการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่มีบทบาทในการสนับสนุนข้อมูลและการบังคับใช้กฎหมายเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย ทั้งนี้ ได้ยกตัวอย่างคดีการปลอมแปลงหนังสือเดินทางที่มีความเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการก่อการร้ายที่ประเทศสเปน และการเตรียมความพร้อมของกรมสอบสวนคดีพิเศษในการรับมือกับการก่อการร้าย โดยการร่วมมือฝึกอบรมโครงการ Tempest Wind ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย

     จากนั้น ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ ได้นำเสนอวิดีทัศน์โครงสร้างและภารกิจของกองปฏิบัติการพิเศษ และบรรยายภาพรวมการฝึกซ้อมด้านยุทธวิถีร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เพื่อเตรียมความพร้อมกรณีเกิดเหตุก่อการร้ายในอนาคต คณะผู้แทน CTP ได้บรรยายและนำหน่วยงาน และเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในสหราชอาณาจักร จากเดิมที่เป็นกลุ่มเครือข่ายขนาดใหญ่ ก่อเหตุรุนแรงด้วยอาวุธที่มีเทคโนโลยีสูง เปลี่ยนมาเป็นการกระทำของบุคคลเพียงคนเดียวที่ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดสุดโต่ง และใช้อาวุธที่หาได้ง่าย เช่น มีด หรือรถยนต์ สหราชอาณาจักรจึงได้ปรับกลยุทธ์การปราบปรามการก่อการร้าย โดยเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนมุสลิม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย และเน้นย้ำถึงบทบาทของคณะกรรมการที่ปรึกษาอิสระ ซึ่งเป็นตัวแทนของชุมชนในการทำงานร่วมกับตำรวจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจระหว่างตำรวจกับชุมชน โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะมีส่วนร่วมในการให้คำแนะนำ แลกเปลี่ยนข้อมูล และช่วยกันวางแผนกลยุทธ์ในการป้องกันและปราบปรามการก่อการร้าย นอกจากนี้ CTP ยังให้ความสำคัญของการทำงานเชิงรุก เช่น การแทรกแซงก่อนที่บุคคลจะก่อเหตุ การฟื้นฟูผู้ที่เคยกระทำผิด และการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับอันตรายของการก่อการร้าย การศึกษาดูงานในครั้งนี้ เป็นโอกาสให้ CTP และ DSI ได้หารือกันในประเด็นการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงในอินเทอร์เน็ต  การป้องกันอาชญากรรมในชุมชน และความพยายามในการต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งต้องอาศัยความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนเพื่อให้ประชาชนกล้าแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับกิจกรรมที่น่าสงสัย และความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสานงานในการต่อสู้กับการก่อการร้าย