DSI จับกุมผู้บริหารจัดการด้านการเงินให้กับเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ในเครือ UFA
เผยแพร่: 9 พ.ย. 2566 9:28 น. ปรับรุง: 20 พ.ย. 2566 10:16 น. เปิดอ่าน 2448 ครั้ง ENDSI จับกุมผู้บริหารจัดการด้านการเงินให้กับเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ในเครือ UFA
วันนี้ (วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2566) พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงผลการดำเนินคดีพิเศษที่ 8/2566 กรณี พนักงานอัยการแนะนำให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนัน และความผิดมูลฐานอื่น ซึ่งเป็นคดีที่ทำการสอบสวนต่อเนื่องเกี่ยวกันกับคดีพิเศษที่ 60/2563 (คดีชบา ภาค 1) ซึ่งได้ดำเนินคดีกับเจ้าของสโมสรฟุตบอล และเจ้าของร้านอาหารชื่อดังไปแล้วก่อนหน้านี้
ต่อมาอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สั่งการให้กองคดียาเสพติด ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลที่มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงจากนางชบาฯ ว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายฐานใดหรือไม่ เป็นคดีพิเศษที่ 8/2566 (คดีชบา ภาค 2)
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติด ได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานพบว่า นายภาคภูมิ (ขอสงวนนามสกุล) มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงจากบัญชีม้าที่ใช้ในเครือข่ายของนางชบา (ขอสงวนนามสกุล) โดยตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกันกว่า 83 บัญชีเงินฝากธนาคาร โดยบางบัญชีมีเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท โดยนายภาคภูมิฯ มีพฤติการณ์เป็นบุคคลใกล้ชิดเจ้าของเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของประเทศรายหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารจัดการรายได้จากเอเจนท์เว็บไซต์พนันที่รับไปทำการตลาดอีกทอดหนึ่ง ซึ่งต้องจ่ายค่าดำเนินการให้กับเจ้าของเครือข่ายของเว็บพนันออนไลน์หลักที่ชื่อว่า UFA การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายองค์ประกอบความผิดฐานฟอกเงิน ศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับที่ 3683/2566 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2566 ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติด ได้สืบสวนเพื่อติดตามจับกุม จนพิสูจน์ทราบว่ นายภาคภูมิฯ ได้เดินทางออกนอกประเทศและจะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 23.00 น. จึงได้ประสานให้ชุดปฏิบัติการของศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำการจับกุมนายภาคภูมิฯ นำส่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติดเพื่อดำเนินคดีและต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลอาญา โดยคัดค้านการประกันตัว ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสอบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายรายอื่น ๆ โดยได้อายัดบัญชีธนาคารไว้แล้วจำนวน 83 บัญชี ซึ่งส่วนใหญ่มีบุคคลต่างด้าวเป็นเจ้าของบัญชี
จึงขอเตือนไปยังนายจ้างที่มีบุคคลต่างด้าวเป็นลูกจ้าง เพราะปัจจุบันธนาคารได้กำหนดให้นายจ้างต้องรับรองการเปิดบัญชีธนาคารของลูกจ้างต่างด้าว ให้ทำการตรวจสอบสอดส่องไม่ให้ลูกจ้างนำบัญชีที่เปิดไปขายหรือให้กลุ่มอาชญากรใช้ ซึ่งหากสืบสวนพบนายจ้างอาจมีความผิดร่วมกับลูกจ้างในฐานเป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดได้