DSI จับมือตำรวจเยอรมัน - O.U.R - นิติวิทย์ ยธ. รวบตัวหนุ่มสัญชาติไทยเยอรมัน เผยแพร่ภาพลามกอนาจารเด็กและละเมิดทางเพศเด็ก พบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บรรจุไฟล์ภาพกว่า 10,000 ภาพ

เผยแพร่: 18 ม.ค. 2567 15:34 น. ปรับรุง: 18 ม.ค. 2567 15:42 น. เปิดอ่าน 739 ครั้ง  
 


        สืบเนื่องกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และรับข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดทางเพศเด็กจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Bundeskriminalamt : BKA) ได้ส่งข้อมูลพร้อมหลักฐานภาพถ่ายและวิดีโอ กรณี มีบุคคลผู้ต้องสงสัยซึ่งอาจมีการกระทำที่มีลักษณะล่วงละเมิดทางเพศเด็กอย่างต่อเนื่องในราชอาณาจักรไทย และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ลงในดาร์กเว็บแห่งหนึ่งและเผยแพร่ไปในประเทศเยอรมัน โดยข้อมูลการสืบสวนพบว่าเป็นบุคคลสัญชาติไทย/เยอรมันซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่จังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและที่สำคัญผู้ต้องสงสัยในการกระทำความผิดรายนี้คาดว่าได้ล่วงละเมิดบุตรสาวของตนเองด้วย

          กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ โดยส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก จึงได้สืบสวนข้อมูลเชิงลึกทั้งทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ในดาร์กเว็บต่าง ๆ ประกอบข้อมูลอื่น ๆ ที่ยากต่อการเข้าถึงของบุคคลทั่วไป รวมทั้งจากดาร์กเว็บเป้าหมาย  พบว่าผู้ต้องสงสัยปัจจุบันอาศัยอยู่ยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือในประเทศไทย มีบุตรสาว 1 คน ที่เกิดกับหญิงไทย ซึ่งคาดว่าเป็นเด็กที่ถูกล่วงละเมิด ในการนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่องค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์ เรลโรด (Operation Underground Railroad : O.U.R)  เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการสืบสวนอย่างใกล้ชิด ประกอบการวิเคราะห์และเปรียบเทียบพยานหลักฐานต่าง ๆ ทางข้อมูลอินเทอร์เน็ตและข้อมูลภาพนิ่งและวิดีโอการกระทำล่วงละเมิดทางเพศเด็ก (Child Sexual Abuse Material - CSAM) มีหลายจุดบ่งชี้ว่าผู้ต้องสงสัยได้กระทำล่วงละเมิดบุตรสาวจริง ความผิดฐาน กระทําชําเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทําอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำชำเราแก่บุพการี ผู้สืบสันดาน พี่น้องร่วมบิดามารดาหรือร่วมแต่บิดา มารดา ญาติสืบสายโลหิต ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการ ผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือในความอนุบาลหรือผู้อยู่ภายใต้อำนาจ ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสําหรับตนเองหรือผู้อื่นและส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก ต่อมาอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้อนุมัติให้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) (ก) และ (ข) เป็นคดีพิเศษที่ 123/2566 และได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอาญาออกหมายจับนายโทนี่ (นามสมมุติ) ตามที่ได้สืบสวนไว้แล้ว

          ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2567 พันตำรวจตรี ยุทธนา  แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอก เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พร้อมด้วยนายวุฒิไกร ศรีธวัช ณ อยุธยา ผู้อำนวยการส่วนสะกดรอยและการข่าว ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี องค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์ เรลโรด (OUR) และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำหมายค้นจากศาลอาญาค้นบ้านแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และนำหมายจับศาลอาญา เข้าจับกุมนายโทนี่ (นามสมมติ) ที่บ้านหลังดังกล่าวโดยพบของกลางเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก บรรจุไฟล์ภาพลามกอนาจารเด็ก รวมทั้งมีภาพของผู้เสียหาย ตรงกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตำรวจสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี มอบให้ก่อนหน้านี้ โดยสามารถเชื่อมโยงวิเคราะห์เปรียบเทียบการกระทำความผิดในการล่วงละเมิดทางเพศเด็กได้ชัดเจน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมาย เพื่อดำเนินคดีในฐานความผิดฯ ที่กล่าวข้างต้น และได้นำตัวส่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ เพื่อสอบสวนและนำตัวฝากขัง ณ ศาลอาญา โดยขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ศาลอาญา ไม่อนุมัติปล่อยตัวชั่วคราว และอนุมัติฝากขัง
ครั้งที่ 1  กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอเรียนว่าจะดำเนินการขยายผลการจับกุมผู้กระทำความผิดการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในคดีนี้เพิ่มเติม ที่น่าเชื่อว่าจะมีเด็กผู้เสียหายรายอื่นอีก และจะมีการให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนเกี่ยวกับสิทธิของตนเอง เพื่อเป็นการป้องกันตนเองจากภัยทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศเด็กเป็นปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งร่างกายและจิตใจ โดยผู้ปกครองควรสังเกตพฤติกรรมของเด็กอยู่เสมอหากพบความผิดปกติควรพูดคุยเพื่อหาข้อเท็จจริง

          หากประชาชนทราบเบาะแสหรือต้องสงสัยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีละเมิดทางเพศเด็ก สามารถแจ้งข้อมูลมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผ่านทางเว็บไซต์ www.dsi.go.th หรือส่งเป็นหนังสือมาที่อธิบดี
กรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หรือให้ข้อมูลผ่านทางสายด่วน 
DSI Call Center 1202 (โทร.ฟรี ทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูล
ผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ    


เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ