DSI จับกุมนายหน้าหลอกค้าประเวณีที่เมืองดูไบได้ที่อุดรธานีแจ้งหลายข้อหาหนัก

วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2567) เวลาประมาณ 11.45 น.ชุดปฏิบัติการที่ 1 ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำโดย นายวุฒิไกร ศรีธวัช ณ อยุธยา ผู้อำนวยการส่วนสะกดรอยและการข่าว ได้ร่วมกันจับกุม นางสาวชัญญภัทร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4794/2567 ลงวันที่27 กันยายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่สมคบกันร่วมกันค้ามนุษย์อันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี ตั้งแต่สามคนขึ้นไป หรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรม ร่วมกันเป็นธุระจัดหา หรือชักพาซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใด ๆ และไม่ว่าการกระทำต่าง ๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักรฯ” ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 1 จับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณบ้านพักในอำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้วจากนั้นได้ควบคุมตัวกลับกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้รับผิดชอบคดีได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

            คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 299/2565 ของกองคดีกองคดีการค้ามนุษย์ โดยนางสาวชัญญภัทร (สงวนนามสกุล) มีพฤติการณ์เป็นนายหน้าจัดหาหญิงหลอกให้ไปทำงานค้าประเวณีที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

               ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชาจัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป