DSI ทลายแหล่งเก็บสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้ค้าส่งรายใหญ่ ผ่านช่องทางออนไลน์ ยอดเงินหมุนเวียนในบัญชี 20 ล้านบาท

เผยแพร่: 22 มิ.ย. 2567 16:29 น. ปรับรุง: 25 มิ.ย. 2567 14:22 น. เปิดอ่าน 733 ครั้ง   EN
 

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 11.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และร้อยตำรวจเอก พลสัณห์ เทิดสงวน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา ได้สั่งการให้ ร้อยตำรวจโท ภลลภ เพ็ชรรุ่ง รองผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา นายมาโนช ก้องเกียรติพานิช ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองคดีทรัพย์สินทางปัญญานำหมายค้นของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าทำการตรวจค้นสถานที่ผลิตและจำหน่ายสินค้า ในพื้นที่ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และพื้นที่แขวง/เขตดินแดงกรุงเทพมหานคร รวม 3 แห่ง โดยมีตัวแทนผู้เสียหายเข้าร่วมสังเกตการณ์


           ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่ามีผู้ค้าส่งรายใหญ่ลักลอบจำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าโดยจำหน่ายผ่านเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งมียอดผู้รับชมและสั่งซื้อจำนวนมาก ในระยะเวลา 6 เดือน มียอดเงินหมุนเวียนในบัญชี 20 ล้านบาทคณะพนักงานสอบสวนจึงได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นอาคารทาวน์โฮม ในพื้นที่ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งใช้เป็นสถานที่ถ่ายทอดสดเพื่อเสนอจำหน่ายสินค้า ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก รวมทั้งเป็นที่จัดเก็บสินค้า และอาคารพาณิชย์ในพื้นที่ แขวง/เขต ดินแดง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตสินค้า รวม 3แห่งผลการตรวจค้นพบสินค้าประเภท นาฬิกา กระเป๋า น้ำหอม และเสื้อผ้า ฯลฯ หลากหลายยี่ห้อที่มีลักษณะปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร อาทิ หลุยส์ วิตตอง (LOUIS VUITTON) เฮอร์เมส (HERMES) กุชชี่ (GUCCI) ชาเเนล (CHANEL) และยี่ห้ออื่น ๆ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 5,000 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 5.5 ล้านบาท เมื่อผู้เสียหายชี้ยืนยันเจ้าหน้าที่จึงได้ยึดสินค้าทั้งหมด เพื่อนำมาตรวจสอบและดำเนินคดีต่อไป

            การลักลอบผลิตและจำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าเป็นการสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของประเทศอันอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศและเป็นลักษณะความผิดที่อาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศนับเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่จะต้องดำเนินการสืบสวนปราบปรามอย่างจริงจังและเด็ดขาด เพื่อส่งผลให้ประเทศไทยได้ถูกจัดอันดับสถานะทางการค้าจากสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ให้หลุดจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตา (Watch List -WL) ตามลำดับต่อไป


เอกสารที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ข่าวที่น่าสนใจ